ข้อคิดสำหรับ คนอกหัก
น้องCupid เห็นหลายคนอกหักแล้วจะเป็นจะตาย เฮ้อ เศร้าจริงๆ เลยอยากฝากข้อคิดสำหรับคนมือใหม่เพิ่งอกหักกันนะคะ จะได้ไม่คิดมากจ้ะ
1. อกหัก เป็นเรื่องธรรมชาติ ใครๆก็เคยอกหักทั้งนั้นแหละ แล้วเค้าก็ผ่านมันมาได้
2. ขาดเขา ก็ไม่เห็นตายซักหน่อย เมื่อก่อนเราไม่มีเค้า เรายังอยู่ได้เลย แล้วตอนนี้ทำไมจะอยู่ไม่ได้
3. เกิดมาทั้งที มีอะไรให้ทำตั้งเยอะแยะ งานการก็มีทำ พ่อแม่ก็ต้องดูแล
4. เค้าคงไม่ใช่เนื้อคู่ เพราะคู่กันแล้ว ยังไงก็ไม่แคล้วกัน
5. เราไม่มีเค้าเราเสียใจคนเดียว แต่ถ้าครอบครัวไม่มีเรา เค้าหลายคนอาจเสียใจยิ่งกว่า โดยเฉพาะถ้าเราเป็นเสาหลักเลี้ยงครอบครัว
6. อย่าคิดว่าเราไม่มีใครรักอีกแล้ว จะอยู่ไปทำไม มีหลายคนที่เค้ารักเราแต่เค้าไม่แสดงออก และยังมีหลายคนยังต้องการเรา เพียงแต่ขอให้เราทำตัวให้มีคุณค่าเข้าไว้ และนึกถึงบุญคุณคนที่เลี้ยงดูเรามา เอาเวลาที่เราว่างๆนี้ ดูแลเค้าให้ดีๆ ชดเชยกับเวลาที่เรามัวแต่เอาไปให้คนอื่น
7. ทำบุญทำทาน เข้าวัดเข้าวา จิตใจจะได้ไม่หม่นหมอง
8. ชีวิตเรายังมีค่ากับใครตั้งหลายคน ลองบริจาคให้เด็กยากไร้ ลองเข้าค่ายเพื่อสังคม ลองมองดูคนที่ไม่มีจะกิน แล้วจะรู้ว่าเรามีค่าอีกตั้งมากมาย
9. อย่าคิดสั้น ถ้าเราคิดสั้น ชาติหน้าเกิดมาต้องแย่กว่านี้อีกหลายล้านเท่าทีเดียว เพราะการฆ่าตัวตายหรือฆ่าผู้อื่นเป็นบาปหนักแน่นอน
10. ให้ถืออดีตเป็นบทเรียน คราวหน้าเราจะไม่เป็นแบบนี้อีก
11. คิดซะว่า ความผิดหวังทำให้เราไม่ทะนงตัว ทำให้ไม่คิดว่าเราแน่ เราจึงต้องปรับปรุงตนเองให้ดีอยู่เสมอ
12. ทำให้เรารู้ว่า เมื่อเราผิดหวัง ใครคือคนที่จะอยู่เคียงข้างเรา รักเราอย่างแท้จริง
13. อย่ารีบมีแฟนใหม่เป็นการประชด เพราะมันจะไม่เป็นผลดีกับใครทั้งนั้น
14. เมื่อเค้าไม่เห็นคุณค่าเรา เราจะไปรักเค้าอีกทำไม
15. อย่าเอาเค้าไปเล่าให้คนอื่นฟังแบบเสียๆหายๆ จากกันด้วยดีดีกว่า เก็บความรู้สึกดีๆที่เคยมีกับเค้าเอาไว้
16. ถ้าเรายังคิดถึงเค้าอยู่ตลอด อย่าเอาของที่ทำให้นึกถึงเค้าไว้ใกล้ตัว หรืออย่าไปสถานที่ที่เคยไปกับเค้า
17. อย่าปล่อยให้ตัวเองเหงา ควรใช้เวลาว่างทำกิจกรรมที่เราชอบหรือพัฒนาตนเอง เช่น ไปเรียนเอาปริญญาอีกใบ หรือสมัครเข้าชมรมต่างๆ
18. โลกไม่ได้โหดร้ายกับเราขนาดนั้น เป็นแค่บททดสอบชีวิตเท่านั้นเอง
19. เราอาจไม่ใช่คนไม่ดี เพียงแต่เราไม่เหมาะกับเค้ามากกว่า
20. ไม่ได้เป็นแฟน แค่เป็นเพื่อนก็ยังดี
21. ช่วงหนึ่งของชีวิต เคยมีความรู้สึกดีๆเกิดขึ้น ก็ดีกว่าคนที่ไม่เคยมีความรัก เค้าจะไม่รู้ว่ามันอิ่มเอมแค่ไหน
22. คราวนี้เที่ยวได้เต็มที่ ไม่ต้องมีคนมากวนใจ
23. พรุ่งนี้ก็วันใหม่แล้ว ความผิดหวังมันจะอยู่แค่เมื่อวาน ภายใต้แสงอาทิตย์นี้ ชีวิตนี้ยังมีหวังอยู่เสมอ
24. ความเป็นตัวของตัวเองกลับมาอีกครั้ง หลังจากที่มัวแต่คอยเอาใจแต่คนอื่น
25. อย่าปิดกั้นตัวเอง เราไม่เหมาะกับเค้า แต่เราอาจเหมาะกับคนอื่นก็ได้
26. อย่าประชดเค้า ด้วยการทำตัวน่าสมเพช เช่น เมาแอ๋ เที่ยวดึก ปล่อยตัว เพราะนอกจากจะไม่เป็นผลดีกับตัวเราแล้ว เค้ายังไม่มารับรู้ความเศร้าของเราอีก
27. ที่ใดมีรัก ที่นั่นมีทุกข์ ถ้าคิดจะมีความรัก ต้องไม่กลัวที่จะมีความทุกข์
28. รักตัวเองให้มากกว่าเดิม เพราะรักคนอื่นมาเยอะแล้ว
29. อย่าปล่อยตัวให้โทรม เราต้องดูดีอยู่เสมอ เอาแบบให้เค้ามาเห็นอีกที ตะลึง ตาค้าง น้ำลายไหลไปเลย ไม่ได้ช๊อกเจอผีนะ แต่เสียดายทำไมตอนนั้นมองไม่เห็นความงาม(วะ)เนี่ย
30. เริ่มต้นใหม่ อย่าหมดหวัง หาใหม่ก็ได้ ง่ายจะตาย ลองอ่านและทำตามบทความของน้องCupid ดูสิคะ55
.
2.5.52
ทำอย่างไร เมื่อถูกบอกเลิกอย่างกะทันหัน
ทำอย่างไร เมื่อถูกบอกเลิกอย่างกะทันหัน
อันดับแรก อย่าเพิ่งคิดสั้นนะคะ ชีวิตเรายังมีค่า แค่คนคนเดียวเค้าไม่เห็นค่าเราเท่านั้นเอง แต่ยังมีอีกหลายคนที่เค้ารอความหวังจากเราอยู่ เช่น พ่อแม่ อุตสาห์เลี้ยงดูเรามาจนเติบใหญ่ ประคบประหงมอย่างดี ส่งเสียให้เล่าเรียน หวังให้เรามีการมีงานดีๆทำ เป็นที่พึ่งให้เค้าได้ สุดท้ายเราก็มาคิดสั้นกะแค่คนๆเดียว คิดดูดีๆนะคะ ก่อนตัดสินใจทำอะไรโง่ๆลงไป ซ้ำร้ายไปกว่านั้น บางคนฆ่าตัวตาย แต่ไม่ตายสมใจ พิการอีก ลำบากพ่อแม่แก่ๆแล้วต้องมาเลี้ยงดู อย่างนี้บาปหนักนะคะ อย่าทำเลย ขอฝากข้อคิดเมื่อถูกบอกเลิกกะทันหันนะคะ
1. อย่าฆ่าตัวตาย มันเป็นบาป และการฆ่าตัวตายไม่ใช่การแก้ปัญหาในชาตินี้ เพราะเราไม่รู้ว่าชาติหน้าจะเกิดเป็นอะไร แล้วอีกกี่ชาติจึงจะชดใช้หมด จำไว้ว่า ขาดเขาไม่ตายซักหน่อย ก่อนที่เราจะมาคบกับเค้า เราก็เคยอยู่คนเดียวมาก่อนไม่เห็นเป็นอะไรเลย เค้าไม่ใช่เจ้าชีวิตเรา และชีวิตเราก็ไม่ได้เป็นของเค้า ทำไมต้องเอาเค้ามาอยู่เหนือชีวิตเราด้วย
2. อย่าฆ่าคนอื่น เพราะยังไงก็หนีความผิดไม่พ้นอยู่ดี คิดซะว่าชาติที่แล้วเราทำกรรมกับเค้าเอาไว้ ชาตินี้เลยต้องมาชดใช้ดีกว่า จะได้สบายใจ แล้วเค้าทำไม่ดีกับเราเอาไว้ เค้าก็จะต้องรับผลกรรมนั้นเองค่ะ
3. อย่าวีนแตก หรือโมโหใส่ แม้เราจะโกรธเค้าแค่ไหนก็ตาม จงปลงซะเถอะ เพราะจะทำให้เค้าสมเพช และได้ใจมากขึ้นว่าเค้าคิดไม่ผิดที่เลิกกับเรา
4. อย่าอยู่คนเดียว อย่าปล่อยให้ตัวเองว่าง ให้หาอะไรทำฆ่าเวลาจะได้ไม่ฟุ้งซ่าน คิดมาก เช่น บ้างานไปเลย ช๊อปปิ้งให้กระหน่ำ(แต่อย่าให้หมดตัวนะจ๊ะ) หรือเข้าวัดเข้าวา เดินทางโดยรถสาธารณะ
5. อย่าฟังเพลงอกหักมากนัก เพราะมันจะสะกิดใจเราไปหมดทุกเพลง วินาทีนี้เปิดเพลงไหนก็โดน ทำให้เราคิดถึงเค้ามากขึ้นเรื่อยๆ คิดถึงวันวานอันหวานชื่น ทั้งรัก ทั้งเกลียด ทั้งโกรธ วุ่นวายไปหมด ทำให้ตัดใจไม่ได้ซักที
6. เสียใจซะให้พอ ใครบ้างที่ถูกบอกเลิกแล้วไม่เสียใจล่ะคะ ถ้าอยากร้องห่มร้องไห้เอาให้พอเลยค่ะ ร้องจนพอใจ (แต่อย่าเกินอาทิตย์นึงก็จะดีนะคะ) แล้วหยุด...พอ พร้อมบอกกับตัวเองว่า ชั้นจะไม่ร้องไห้ให้กับคนที่ไม่รักชั้นอีกต่อไป แล้วพยายามทำให้ได้ สู้ สู้
7. ฉลองความโสดให้มันส์ไปเลย นัดเจอเพื่อนเก่า เพื่อนใหม่ทุกสถาบัน แต่อย่าเมาเละนะคะ เดี๋ยวติดจนเป็นตับแข็ง แถมไม่มีคนดูแลอีก
8. มองโลกในแง่ดี หาข้อดีของการไม่มีแฟน และหาข้อเสียของแฟนเก่าที่เราไม่ชอบ เช่น คิดว่าต่อไปนี้จะไม่มีใครมาบังคับเราให้ทำโน่นทำนี่อีกแล้ว ต่อไปเราจะได้เป็นตัวของตัวเองได้เต็มที่เสียที
9. อย่าลืมดูแลตัวเอง อย่าปล่อยเนื้อปล่อยตัวให้โทรม เราต้องดูดีกว่าเดิม ให้เค้ามาเห็นเราอีกที เอาให้แบบเสียดายไปเลย
10. อย่าทำอะไรประชดคนเก่า เช่น มีแฟนใหม่ทันที โดยที่ยังไม่ลองคบคนใหม่ดูเลย วิธีนี้ไม่เป็นผลดีกับใครทั้งนั้นค่ะ
11. อย่าปิดกั้นตัวเองเด็ดขาด เราต้องมีความมั่นใจและตั้งปณิธาณว่า ชั้นจะเปิดตัวเอง หาคนใหม่ให้ดีกว่าเธอร้อยเท่าพันเท่า คนอย่างชั้นดูดีอย่างนี้ นิสัยดีอย่างนี้ หาได้อยู่แล้ว ไม่เห็นยาก555 เป็นคู่กันแล้วยังไงก็ไม่แคล้วกัน เพียงแต่ยังหากันไม่เจอเท่านั้นเอง
12. อย่าหมดหวัง ว่าชาตินี้คงไม่ไม่ใครมาชอบเราอีกแล้ว จำไว้ว่า คู่กันแล้วคงไม่แคล้วกัน
13. ให้ถืออดีตเป็นบทเรียน แล้วเริ่มต้นใหม่ ปรับปรุงตัวใหม่ อะไรที่เค้าเคยเตือนเรา หรืออะไรที่เราทำนิสัยไม่ดีเอาไว้ ก็ทำตัวซะใหม่ พรุ่งนี้ยังไม่สายเกินไป ขอให้ตั้งใจจริงค่ะ
14. ขอกำลังใจจากคนรอบข้าง เช่น พ่อ แม่ พี่ น้อง เพื่อนสนิท ถ้าระบายให้ใครฟัง แล้วรู้สึกดีขึ้นก็ทำไปเลย แล้วคุณจะรู้ว่าใครกันแน่ที่ห่วงใยและรักคุณจริง
15. แฟนไม่ใช่คำตอบสุดท้ายในชีวิต เรายังมีครอบครัว มีสังคม มีอะไรให้ทำอีกเยอะแยะ ในเมื่อเกิดมาเป็นคนแล้ว ก็ต้องเจอความสุข ความทุกข์ ความผิดหวัง ความสมหวังเป็นธรรมดา อย่าคิดมากค่ะ
น้องCupid ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนนะคะ สู้ต่อไป แล้วก็อย่าลืมทำบุญเยอะๆนะคะ จะได้สบายใจ แถมได้บุญด้วยค่า
.
อันดับแรก อย่าเพิ่งคิดสั้นนะคะ ชีวิตเรายังมีค่า แค่คนคนเดียวเค้าไม่เห็นค่าเราเท่านั้นเอง แต่ยังมีอีกหลายคนที่เค้ารอความหวังจากเราอยู่ เช่น พ่อแม่ อุตสาห์เลี้ยงดูเรามาจนเติบใหญ่ ประคบประหงมอย่างดี ส่งเสียให้เล่าเรียน หวังให้เรามีการมีงานดีๆทำ เป็นที่พึ่งให้เค้าได้ สุดท้ายเราก็มาคิดสั้นกะแค่คนๆเดียว คิดดูดีๆนะคะ ก่อนตัดสินใจทำอะไรโง่ๆลงไป ซ้ำร้ายไปกว่านั้น บางคนฆ่าตัวตาย แต่ไม่ตายสมใจ พิการอีก ลำบากพ่อแม่แก่ๆแล้วต้องมาเลี้ยงดู อย่างนี้บาปหนักนะคะ อย่าทำเลย ขอฝากข้อคิดเมื่อถูกบอกเลิกกะทันหันนะคะ
1. อย่าฆ่าตัวตาย มันเป็นบาป และการฆ่าตัวตายไม่ใช่การแก้ปัญหาในชาตินี้ เพราะเราไม่รู้ว่าชาติหน้าจะเกิดเป็นอะไร แล้วอีกกี่ชาติจึงจะชดใช้หมด จำไว้ว่า ขาดเขาไม่ตายซักหน่อย ก่อนที่เราจะมาคบกับเค้า เราก็เคยอยู่คนเดียวมาก่อนไม่เห็นเป็นอะไรเลย เค้าไม่ใช่เจ้าชีวิตเรา และชีวิตเราก็ไม่ได้เป็นของเค้า ทำไมต้องเอาเค้ามาอยู่เหนือชีวิตเราด้วย
2. อย่าฆ่าคนอื่น เพราะยังไงก็หนีความผิดไม่พ้นอยู่ดี คิดซะว่าชาติที่แล้วเราทำกรรมกับเค้าเอาไว้ ชาตินี้เลยต้องมาชดใช้ดีกว่า จะได้สบายใจ แล้วเค้าทำไม่ดีกับเราเอาไว้ เค้าก็จะต้องรับผลกรรมนั้นเองค่ะ
3. อย่าวีนแตก หรือโมโหใส่ แม้เราจะโกรธเค้าแค่ไหนก็ตาม จงปลงซะเถอะ เพราะจะทำให้เค้าสมเพช และได้ใจมากขึ้นว่าเค้าคิดไม่ผิดที่เลิกกับเรา
4. อย่าอยู่คนเดียว อย่าปล่อยให้ตัวเองว่าง ให้หาอะไรทำฆ่าเวลาจะได้ไม่ฟุ้งซ่าน คิดมาก เช่น บ้างานไปเลย ช๊อปปิ้งให้กระหน่ำ(แต่อย่าให้หมดตัวนะจ๊ะ) หรือเข้าวัดเข้าวา เดินทางโดยรถสาธารณะ
5. อย่าฟังเพลงอกหักมากนัก เพราะมันจะสะกิดใจเราไปหมดทุกเพลง วินาทีนี้เปิดเพลงไหนก็โดน ทำให้เราคิดถึงเค้ามากขึ้นเรื่อยๆ คิดถึงวันวานอันหวานชื่น ทั้งรัก ทั้งเกลียด ทั้งโกรธ วุ่นวายไปหมด ทำให้ตัดใจไม่ได้ซักที
6. เสียใจซะให้พอ ใครบ้างที่ถูกบอกเลิกแล้วไม่เสียใจล่ะคะ ถ้าอยากร้องห่มร้องไห้เอาให้พอเลยค่ะ ร้องจนพอใจ (แต่อย่าเกินอาทิตย์นึงก็จะดีนะคะ) แล้วหยุด...พอ พร้อมบอกกับตัวเองว่า ชั้นจะไม่ร้องไห้ให้กับคนที่ไม่รักชั้นอีกต่อไป แล้วพยายามทำให้ได้ สู้ สู้
7. ฉลองความโสดให้มันส์ไปเลย นัดเจอเพื่อนเก่า เพื่อนใหม่ทุกสถาบัน แต่อย่าเมาเละนะคะ เดี๋ยวติดจนเป็นตับแข็ง แถมไม่มีคนดูแลอีก
8. มองโลกในแง่ดี หาข้อดีของการไม่มีแฟน และหาข้อเสียของแฟนเก่าที่เราไม่ชอบ เช่น คิดว่าต่อไปนี้จะไม่มีใครมาบังคับเราให้ทำโน่นทำนี่อีกแล้ว ต่อไปเราจะได้เป็นตัวของตัวเองได้เต็มที่เสียที
9. อย่าลืมดูแลตัวเอง อย่าปล่อยเนื้อปล่อยตัวให้โทรม เราต้องดูดีกว่าเดิม ให้เค้ามาเห็นเราอีกที เอาให้แบบเสียดายไปเลย
10. อย่าทำอะไรประชดคนเก่า เช่น มีแฟนใหม่ทันที โดยที่ยังไม่ลองคบคนใหม่ดูเลย วิธีนี้ไม่เป็นผลดีกับใครทั้งนั้นค่ะ
11. อย่าปิดกั้นตัวเองเด็ดขาด เราต้องมีความมั่นใจและตั้งปณิธาณว่า ชั้นจะเปิดตัวเอง หาคนใหม่ให้ดีกว่าเธอร้อยเท่าพันเท่า คนอย่างชั้นดูดีอย่างนี้ นิสัยดีอย่างนี้ หาได้อยู่แล้ว ไม่เห็นยาก555 เป็นคู่กันแล้วยังไงก็ไม่แคล้วกัน เพียงแต่ยังหากันไม่เจอเท่านั้นเอง
12. อย่าหมดหวัง ว่าชาตินี้คงไม่ไม่ใครมาชอบเราอีกแล้ว จำไว้ว่า คู่กันแล้วคงไม่แคล้วกัน
13. ให้ถืออดีตเป็นบทเรียน แล้วเริ่มต้นใหม่ ปรับปรุงตัวใหม่ อะไรที่เค้าเคยเตือนเรา หรืออะไรที่เราทำนิสัยไม่ดีเอาไว้ ก็ทำตัวซะใหม่ พรุ่งนี้ยังไม่สายเกินไป ขอให้ตั้งใจจริงค่ะ
14. ขอกำลังใจจากคนรอบข้าง เช่น พ่อ แม่ พี่ น้อง เพื่อนสนิท ถ้าระบายให้ใครฟัง แล้วรู้สึกดีขึ้นก็ทำไปเลย แล้วคุณจะรู้ว่าใครกันแน่ที่ห่วงใยและรักคุณจริง
15. แฟนไม่ใช่คำตอบสุดท้ายในชีวิต เรายังมีครอบครัว มีสังคม มีอะไรให้ทำอีกเยอะแยะ ในเมื่อเกิดมาเป็นคนแล้ว ก็ต้องเจอความสุข ความทุกข์ ความผิดหวัง ความสมหวังเป็นธรรมดา อย่าคิดมากค่ะ
น้องCupid ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนนะคะ สู้ต่อไป แล้วก็อย่าลืมทำบุญเยอะๆนะคะ จะได้สบายใจ แถมได้บุญด้วยค่า
.
ป้ายกำกับ:
ข้อคิด,
ทำอย่างไร เมื่อถูกบอกเลิกอย่างกะทันหัน,
แฟน,
อกหัก
เตรียมตัวเลิกอย่างไรให้เสียใจน้อยที่สุด
เตรียมตัวเลิกอย่างไรให้เสียใจน้อยที่สุด
เมื่อมันมาสุดทาง ยังไงซักวันนึงเค้าก็ต้องไปอยู่ดี ก็รีบเลิกไปซะดีกว่าค่ะ จะได้ไม่เสียเวลาทั้งสองฝ่าย เค้าอาจจะไม่ใช่คู่แท้ของเราก็ได้ แต่จะเตรียมตัวยังไงให้เลิกกันแล้วเราเสียใจน้อยที่สุด น้องCupid มีวิธีค่ะ
1. ให้เค้าเป็นฝ่ายบอกเลิก เราจะได้ไม่รู้สึกผิด
2. แอบทำใจ เมื่อมั่นใจว่าเค้าไม่ได้รักเราเหมือนเดิมแล้ว แต่ถ้าเลิกกันตอนนี้ เราก็ยังทำใจไม่ได้ ให้เราค่อยๆทำใจค่ะ ทีละเล็กละน้อย คิดอยู่เสมอว่าเราไม่มีเค้าแล้ว โดยไม่ต้องบอกเค้าว่าเรากำลังทำใจอยู่
3. พยายามทำอะไรคนเดียว เช่น เดินshoppingคนเดียว ดูหนังคนเดียวหรือไปกับเพื่อนโดยที่ไม่มีเค้า
4. เดินทางคนเดียว เช่น ถ้าแต่ก่อนเราไม่สบาย เค้าจะพาเราไปหาหมอ หรือเวลาเรานัดเพื่อนเค้าจะไปรับไปส่ง เราก็เปลี่ยนเป็นไปคนเดียวบ้าง หรือถ้าตอนแรกๆอาจจะให้เพื่อนไปเป็นเพื่อนก่อน
5. ไม่ต้องพาเค้าไปเวลานัดเจอเพื่อนเรา เพื่อฝึกความกล้าในการตอบคำถามว่า ทำไมมาคนเดียว แฟนไม่มาด้วยหรอ (เราก็ตอบไปว่าเค้าไม่ว่าง แค่เนี๊ย)
6. ระบายให้เพื่อนที่ไว้ใจได้ฟังบ้าง การระบายจะทำให้เราได้ปลดปล่อย แล้วเราจะสบายใจขึ้น
เมื่อลองทำตามขั้นตอนข้างบนแล้ว ทีนี้มาทดสอบกันว่าเราอยู่ได้มั๊ย ถ้าไม่มีเค้า โดยการ
1. ทำอะไรเองได้คนเดียวแล้ว โดยไม่ได้รู้สึกเคว้งเหมือนตอนครั้งแรกๆที่ทำ
2. กล้าสบตาเพื่อน ไม่อายเวลานัดเจอกัน เมื่อเค้าถามว่า อ้าวแฟนเธอไม่มาด้วยหรอ
3. เมื่อได้ยินเสียงโทรศัพท์ ไม่ลุกลี้ลุกรนว่าเค้าจะโทรมาหรือไม่
4. ไม่ร้องไห้เสียใจอีกต่อไป เวลานึกถึงเค้า
เย้ ดีใจด้วย ถ้าสาวกของน้องCupid ทำได้ตามนี้ เพราะมันแปลว่า เราอยู่ได้แล้ว งั้นตอนนี้ก็รอเวลาเค้าบอกเลิกอย่างเดียว โดยเราอาจทำพฤติกรรมที่เค้าไม่ค่อยชอบ บ่อยๆเข้าเค้าก็ทนไม่ไหวไปเองแหละจ้ะ
แต่เสียใจด้วยค่ะ สำหรับคนที่ทำตามข้างบนไม่ได้ ยังไงก็ร้องไห้อยู่ดี แต่พยายามคิดนะคะ เรายื้อเค้าไว้ก็ไม่มีประโยชน์อะไร ในเมื่อเค้าไม่มีใจให้เราแล้ว มาแต่ตัว แต่หัวใจเค้าไปอยู่ไหนไม่รู้ เพราะฉะนั้น ขอแนะนำว่า “ต้องเลิก” เราต้องทำให้ได้!!! เมื่อเค้าไม่สนใจเราแล้วจะไปสนใจเค้าอีกทำไม จริงไหมคะ
.
เมื่อมันมาสุดทาง ยังไงซักวันนึงเค้าก็ต้องไปอยู่ดี ก็รีบเลิกไปซะดีกว่าค่ะ จะได้ไม่เสียเวลาทั้งสองฝ่าย เค้าอาจจะไม่ใช่คู่แท้ของเราก็ได้ แต่จะเตรียมตัวยังไงให้เลิกกันแล้วเราเสียใจน้อยที่สุด น้องCupid มีวิธีค่ะ
1. ให้เค้าเป็นฝ่ายบอกเลิก เราจะได้ไม่รู้สึกผิด
2. แอบทำใจ เมื่อมั่นใจว่าเค้าไม่ได้รักเราเหมือนเดิมแล้ว แต่ถ้าเลิกกันตอนนี้ เราก็ยังทำใจไม่ได้ ให้เราค่อยๆทำใจค่ะ ทีละเล็กละน้อย คิดอยู่เสมอว่าเราไม่มีเค้าแล้ว โดยไม่ต้องบอกเค้าว่าเรากำลังทำใจอยู่
3. พยายามทำอะไรคนเดียว เช่น เดินshoppingคนเดียว ดูหนังคนเดียวหรือไปกับเพื่อนโดยที่ไม่มีเค้า
4. เดินทางคนเดียว เช่น ถ้าแต่ก่อนเราไม่สบาย เค้าจะพาเราไปหาหมอ หรือเวลาเรานัดเพื่อนเค้าจะไปรับไปส่ง เราก็เปลี่ยนเป็นไปคนเดียวบ้าง หรือถ้าตอนแรกๆอาจจะให้เพื่อนไปเป็นเพื่อนก่อน
5. ไม่ต้องพาเค้าไปเวลานัดเจอเพื่อนเรา เพื่อฝึกความกล้าในการตอบคำถามว่า ทำไมมาคนเดียว แฟนไม่มาด้วยหรอ (เราก็ตอบไปว่าเค้าไม่ว่าง แค่เนี๊ย)
6. ระบายให้เพื่อนที่ไว้ใจได้ฟังบ้าง การระบายจะทำให้เราได้ปลดปล่อย แล้วเราจะสบายใจขึ้น
เมื่อลองทำตามขั้นตอนข้างบนแล้ว ทีนี้มาทดสอบกันว่าเราอยู่ได้มั๊ย ถ้าไม่มีเค้า โดยการ
1. ทำอะไรเองได้คนเดียวแล้ว โดยไม่ได้รู้สึกเคว้งเหมือนตอนครั้งแรกๆที่ทำ
2. กล้าสบตาเพื่อน ไม่อายเวลานัดเจอกัน เมื่อเค้าถามว่า อ้าวแฟนเธอไม่มาด้วยหรอ
3. เมื่อได้ยินเสียงโทรศัพท์ ไม่ลุกลี้ลุกรนว่าเค้าจะโทรมาหรือไม่
4. ไม่ร้องไห้เสียใจอีกต่อไป เวลานึกถึงเค้า
เย้ ดีใจด้วย ถ้าสาวกของน้องCupid ทำได้ตามนี้ เพราะมันแปลว่า เราอยู่ได้แล้ว งั้นตอนนี้ก็รอเวลาเค้าบอกเลิกอย่างเดียว โดยเราอาจทำพฤติกรรมที่เค้าไม่ค่อยชอบ บ่อยๆเข้าเค้าก็ทนไม่ไหวไปเองแหละจ้ะ
แต่เสียใจด้วยค่ะ สำหรับคนที่ทำตามข้างบนไม่ได้ ยังไงก็ร้องไห้อยู่ดี แต่พยายามคิดนะคะ เรายื้อเค้าไว้ก็ไม่มีประโยชน์อะไร ในเมื่อเค้าไม่มีใจให้เราแล้ว มาแต่ตัว แต่หัวใจเค้าไปอยู่ไหนไม่รู้ เพราะฉะนั้น ขอแนะนำว่า “ต้องเลิก” เราต้องทำให้ได้!!! เมื่อเค้าไม่สนใจเราแล้วจะไปสนใจเค้าอีกทำไม จริงไหมคะ
.
ป้ายกำกับ:
ข้อคิด,
เตรียมตัวเลิกอย่างไรให้เสียใจน้อยที่สุด,
รัก,
อกหัก
แฟนหนูมีกิ๊ก แต่หนูยังรักเค้าอยู่ ทำไงดี
แฟนหนูมีกิ๊ก แต่หนูยังรักเค้าอยู่ ทำไงดี
แฟนมีกิ๊ก แต่เรายังรักเค้าอยู่ ทำไงดี คำตอบคือ ไม่ต้องทำไงหรอกค่ะ ทำใจอย่างเดียว ม่ายช่าย...มันต้องมีวิธีสิคะ แต่จะเรียกเค้ากลับมายังไงดี ให้เนียนๆและภาพลักษณ์ยังดูดี(ไม่เป็นนางมารร้าย) ไม่ต้องไปทำไสยศาสตร์ให้เปลืองเงินนะคะ แค่ตั้งสติและพิจารณาดูว่า เค้าแค่มีกิ๊กไว้ขำๆ หรือเอาจริง ถ้าแค่ขำๆก็ไม่ยากค่ะ แต่ถ้าเอาจริง ก็ต้องใช้เวลาและความอดทนหน่อย ลองดูวิธีนะคะ
1. เงียบสงบ สยบความเคลื่อนไหว ห้ามวีนแตกเด็ดขาด ทำนิ่งๆไว้ ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้
2. พิจารณาตัวเอง ทบทวนดูว่า เราดีพอสำหรับเค้าหรือเปล่า
ถ้าตอบว่า ไม่ใช่ ให้รีบปรับปรุงตัวเสียใหม่ซะ คงยังไม่สายเกินไป
ถ้าตอบว่า ใช่ (อย่าเข้าข้างตัวเองนะคะ) ให้คิดลึกลงไปอีกว่า แล้วเราแพ้เค้าตรงไหน ความสวย ความเซ็กซี่หรอ หรือเค้าเคยติอะไรเราบ้างมั๊ย เช่น น้อยใจเราไม่มีเวลาให้เค้า หรือเราชอบวีนแตกเสมอเวลาโกรธ หรือเราไม่เห็นสนใจเค้าบ้างเลย เป็นต้น ถ้าเรื่องนิสัย หรือการปฏิบัติตัว ปรับปรุงได้ ก็รีบปรับปรุงตัวซะ แต่ถ้าเรื่องความสวยความงาม ความเซ็กซี่ ก็ลองสอบถามผู้รู้ดู เอาให้เหมาะสมกับตัวเรา อย่าเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือนะคะ หรือถึงขนาดลงทุนทำศัลยกรรม อันนี้ก็เกินไป เดี๋ยวเค้าจะตกใจรับไม่ได้ไปเปล่าๆ เซ็งเลย
3. พยายามแสดงตัวคู่กันให้กิ๊กคนนี้เค้าเห็นว่าเรายังคบกันอยู่ แต่เราต้องมาในแบบผู้ดีนะคะ ไม่ใช่นางมารร้าย ประชดประชัน ด่าทอ หรือทำร้ายตบตี ไม่งามและน่าสมเพชด้วยค่ะ ถ้าคุณทำแบบนี้บอกได้คำเดียวว่า โอกาสที่ผู้ชายเค้าจะไปมีสูงมาก
4. พยายามหาคำตอบจากแฟนเราให้ได้ว่า เราไม่ดีตรงไหน เราทำผิดอะไรเค้าถึงนอกใจเรา เค้นมาให้ได้ ถ้ามันจริงอย่างที่เค้าว่า ก็ปรับปรุงตัวซะ ถ้าไม่จริงก็อธิบายเหตุผลไป อย่าทำตัวเป็นนางเอ๊ก นางเอก ไม่พูดไม่ถาม ณ เวลานี้เราต้องรู้ให้ได้ (อย่างน้อยถ้าเลิกกัน ก็เอาไว้ปรับปรุงตัวกับคนใหม่ได้ อิอิ)
5. ถ้าแต่เดิมเราเอาใจเค้ามาก ปรนนิบัติดูแลเค้าอย่างดี ต้องแก้ด้วยการไม่สนใจเค้าเลย จริงๆค่ะ เทคนิคนี้ลองแนะให้คนอื่นทำมาเยอะแล้วได้ผล เพราะผู้ชายเป็นเพศที่ต้องการให้คนอื่นให้ความสำคัญกับตัวเอง ยิ่งผู้หญิงให้ความสำคัญกับเค้าเท่าไหร่ เค้ายิ่งทำตัวพองลมและได้ใจมากเท่านั้น เพราะฉะนั้นต้องหักดิบ ไม่ต้องสนใจเค้าเลยค่ะ ถ้าเค้าถามให้ตอบไปเลยค่ะว่า อยากไปก็ไปเลย แล้วถ้าเราไปบ้างไม่ต้องมาว่ากันนะ ทีนี้ล่ะ บอกได้คำว่า เค้าเครียดแน่ และต้องเลือกแล้ว ไม่งั้นเราทิ้งเค้าแน่ รีบกลับไปดีกว่า...เพราะคนนี้(กิ๊ก) เราก็ไม่ได้ชอบเท่าไหร่
6. ถ้าแต่เดิมเราไม่ค่อยสนใจเค้าเลย ก็ทำตัวตรงกันข้าม พยายามชวนเค้าไปเที่ยวมากขึ้น ให้เวลาเค้ามากขึ้น อย่าให้กิ๊กมาแย่งเวลาเราไปได้ และรีบทำคะแนนซะ
7. ถ้าเค้าเป็นผู้ชายเจ้าชู้ เจอผู้หญิงสวยๆจีบหมด ขอแนะนำคำเดียวว่า “เลิก” เลิกเถอะค่ะ คบไปเราก็ไม่มีความสุข เหนื่อยใจเปล่าๆ เพราะเค้าเป็นคนไม่รู้จักพอ มีใหม่ไปเรื่อยๆ รักทุกคนไปหมด ต้องให้เค้าเจอผู้หญิงเจ้าชู้ค่ะ ถึงจะรู้สึก อิอิ
8. ถ้าเราทำตัวใหม่แล้ว อดทนทุกอย่าง ก็ยังไม่ดีขึ้น เค้าดูลนลาน รอหาจังหวะบอกเลิกเราอยู่ ก็ขอแนะนำว่า ทำใจซะเถอะค่ะ คิดดู...ผู้ชายดีๆที่ไหนเค้านอกใจแฟน อย่างนี้แปลว่าเค้าไม่ได้รักเราจริง และก็ไม่ได้เป็นคนดีหรอก ผู้หญิงอย่างเราคู่ควรกับผู้ชายดีๆที่รักเราจริง(คนเดียว)มากกว่า เพราะฉะนั้นพยายามตัดใจซะ ไม่ต้องไปเสียดายของไม่ดี...
.
แฟนมีกิ๊ก แต่เรายังรักเค้าอยู่ ทำไงดี คำตอบคือ ไม่ต้องทำไงหรอกค่ะ ทำใจอย่างเดียว ม่ายช่าย...มันต้องมีวิธีสิคะ แต่จะเรียกเค้ากลับมายังไงดี ให้เนียนๆและภาพลักษณ์ยังดูดี(ไม่เป็นนางมารร้าย) ไม่ต้องไปทำไสยศาสตร์ให้เปลืองเงินนะคะ แค่ตั้งสติและพิจารณาดูว่า เค้าแค่มีกิ๊กไว้ขำๆ หรือเอาจริง ถ้าแค่ขำๆก็ไม่ยากค่ะ แต่ถ้าเอาจริง ก็ต้องใช้เวลาและความอดทนหน่อย ลองดูวิธีนะคะ
1. เงียบสงบ สยบความเคลื่อนไหว ห้ามวีนแตกเด็ดขาด ทำนิ่งๆไว้ ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้
2. พิจารณาตัวเอง ทบทวนดูว่า เราดีพอสำหรับเค้าหรือเปล่า
ถ้าตอบว่า ไม่ใช่ ให้รีบปรับปรุงตัวเสียใหม่ซะ คงยังไม่สายเกินไป
ถ้าตอบว่า ใช่ (อย่าเข้าข้างตัวเองนะคะ) ให้คิดลึกลงไปอีกว่า แล้วเราแพ้เค้าตรงไหน ความสวย ความเซ็กซี่หรอ หรือเค้าเคยติอะไรเราบ้างมั๊ย เช่น น้อยใจเราไม่มีเวลาให้เค้า หรือเราชอบวีนแตกเสมอเวลาโกรธ หรือเราไม่เห็นสนใจเค้าบ้างเลย เป็นต้น ถ้าเรื่องนิสัย หรือการปฏิบัติตัว ปรับปรุงได้ ก็รีบปรับปรุงตัวซะ แต่ถ้าเรื่องความสวยความงาม ความเซ็กซี่ ก็ลองสอบถามผู้รู้ดู เอาให้เหมาะสมกับตัวเรา อย่าเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือนะคะ หรือถึงขนาดลงทุนทำศัลยกรรม อันนี้ก็เกินไป เดี๋ยวเค้าจะตกใจรับไม่ได้ไปเปล่าๆ เซ็งเลย
3. พยายามแสดงตัวคู่กันให้กิ๊กคนนี้เค้าเห็นว่าเรายังคบกันอยู่ แต่เราต้องมาในแบบผู้ดีนะคะ ไม่ใช่นางมารร้าย ประชดประชัน ด่าทอ หรือทำร้ายตบตี ไม่งามและน่าสมเพชด้วยค่ะ ถ้าคุณทำแบบนี้บอกได้คำเดียวว่า โอกาสที่ผู้ชายเค้าจะไปมีสูงมาก
4. พยายามหาคำตอบจากแฟนเราให้ได้ว่า เราไม่ดีตรงไหน เราทำผิดอะไรเค้าถึงนอกใจเรา เค้นมาให้ได้ ถ้ามันจริงอย่างที่เค้าว่า ก็ปรับปรุงตัวซะ ถ้าไม่จริงก็อธิบายเหตุผลไป อย่าทำตัวเป็นนางเอ๊ก นางเอก ไม่พูดไม่ถาม ณ เวลานี้เราต้องรู้ให้ได้ (อย่างน้อยถ้าเลิกกัน ก็เอาไว้ปรับปรุงตัวกับคนใหม่ได้ อิอิ)
5. ถ้าแต่เดิมเราเอาใจเค้ามาก ปรนนิบัติดูแลเค้าอย่างดี ต้องแก้ด้วยการไม่สนใจเค้าเลย จริงๆค่ะ เทคนิคนี้ลองแนะให้คนอื่นทำมาเยอะแล้วได้ผล เพราะผู้ชายเป็นเพศที่ต้องการให้คนอื่นให้ความสำคัญกับตัวเอง ยิ่งผู้หญิงให้ความสำคัญกับเค้าเท่าไหร่ เค้ายิ่งทำตัวพองลมและได้ใจมากเท่านั้น เพราะฉะนั้นต้องหักดิบ ไม่ต้องสนใจเค้าเลยค่ะ ถ้าเค้าถามให้ตอบไปเลยค่ะว่า อยากไปก็ไปเลย แล้วถ้าเราไปบ้างไม่ต้องมาว่ากันนะ ทีนี้ล่ะ บอกได้คำว่า เค้าเครียดแน่ และต้องเลือกแล้ว ไม่งั้นเราทิ้งเค้าแน่ รีบกลับไปดีกว่า...เพราะคนนี้(กิ๊ก) เราก็ไม่ได้ชอบเท่าไหร่
6. ถ้าแต่เดิมเราไม่ค่อยสนใจเค้าเลย ก็ทำตัวตรงกันข้าม พยายามชวนเค้าไปเที่ยวมากขึ้น ให้เวลาเค้ามากขึ้น อย่าให้กิ๊กมาแย่งเวลาเราไปได้ และรีบทำคะแนนซะ
7. ถ้าเค้าเป็นผู้ชายเจ้าชู้ เจอผู้หญิงสวยๆจีบหมด ขอแนะนำคำเดียวว่า “เลิก” เลิกเถอะค่ะ คบไปเราก็ไม่มีความสุข เหนื่อยใจเปล่าๆ เพราะเค้าเป็นคนไม่รู้จักพอ มีใหม่ไปเรื่อยๆ รักทุกคนไปหมด ต้องให้เค้าเจอผู้หญิงเจ้าชู้ค่ะ ถึงจะรู้สึก อิอิ
8. ถ้าเราทำตัวใหม่แล้ว อดทนทุกอย่าง ก็ยังไม่ดีขึ้น เค้าดูลนลาน รอหาจังหวะบอกเลิกเราอยู่ ก็ขอแนะนำว่า ทำใจซะเถอะค่ะ คิดดู...ผู้ชายดีๆที่ไหนเค้านอกใจแฟน อย่างนี้แปลว่าเค้าไม่ได้รักเราจริง และก็ไม่ได้เป็นคนดีหรอก ผู้หญิงอย่างเราคู่ควรกับผู้ชายดีๆที่รักเราจริง(คนเดียว)มากกว่า เพราะฉะนั้นพยายามตัดใจซะ ไม่ต้องไปเสียดายของไม่ดี...
.
ป้ายกำกับ:
กิ๊ก,
แฟน,
แฟนหนูมีกิ๊ก แต่หนูยังรักเค้าอยู่ ทำไงดี,
รัก,
อกหัก
จับได้ว่าเค้ามี “กิ๊ก” ควรจะเลิกดีหรือไม่
จับได้ว่าเค้ามี “กิ๊ก” ควรจะเลิกดีหรือไม่
ถามกันมาเยอะค่ะว่า จับได้ว่าเค้ามี “กิ๊ก” ควรจะเลิกดีหรือไม่ ขอแนะนำว่า ควรตอบตัวเองให้ได้ก่อนว่าเรายังรักเค้าอยู่หรือไม่ ถ้าตอบว่าไม่รัก จบเลยค่ะ...เลิก แต่ถ้าตอบว่ารัก ให้สังเกตุพฤติกรรมเค้าดูนะคะว่า
1. เค้าเริ่มปฏิเสธคำชวนเราบ้างหรือไม่ เช่น ชวนไปไหนก็เริ่มปฏิเสธ
2. เค้าไม่ดูแลเอาใจใส่เราเหมือนก่อน ใช่หรือไม่
3. เค้าดูไม่ค่อยสดใสเวลาอยู่กับเราหรือไม่
4. เค้าเริ่มหงุดหงิด ก้าวร้าวใส่เราหรือไม่
5. เค้าหาเรื่องชวนทะเลาะมากขึ้นหรือไม่
6. พักหลังๆเค้าไม่ค่อยชวนเราออกไปเที่ยวหรือไม่
7. เค้าดูไม่ค่อยสนใจในสิ่งที่เราพูดหรือไม่
8. เค้าชอบมองไปที่อื่น ไม่ค่อยสบตาเราหรือไม่
9. เค้าชอบติโน่นตินี่เรามากขึ้นหรือไม่
10. เค้าไม่ไปรับไปส่งเราเหมือนเดิม หรือไม่
11. เค้าไม่ค่อยแคร์ความรู้สึกเราเหมือนก่อน ใช่หรือไม่
12. เค้าไม่แสดงอาการหวงและห่วงเราเหมือนที่เคยทำ ใช่หรือไม่
ถ้าเค้ามีพฤติกรรมอย่างนี้มากกว่า 6 ข้อ น้อง Cupid ขอแนะนำว่า ทำใจเอาไว้บ้างก็ดีค่ะ เพราะมันเป็นลางบอกเหตุแล้วว่า เค้าอาจชอบกิ๊กมากกว่าเราและไม่ค่อยสนใจเราแล้ว รอเวลาชิ่งอย่างเดียว แต่ยังไงก็ควรถามเหตุผลเขาบ้างนะคะ ว่าทำไมถึงทำอย่างนี้ เราไม่ดีตรงไหน จะได้ปรับปรุงตัว และแก้ไขสถานการณ์ให้มันดีขึ้น
ถ้าเค้าไม่ได้มีพฤติกรรมอย่างนี้มากกว่า 8 ข้อ น้อง Cupid ขอแนะนำว่าอย่าเลิกเลยค่ะ เพราะนั่นแสดงว่าเค้ายังแคร์และเกรงใจเราอยู่ เค้ายังปฏิบัติเหมือนเดิม หรือบางทีดีกว่าเดิมด้วยซ้ำ เพื่อปกปิดความผิดของตัวเอง และไม่ว่าเค้าจะมีใครใหม่ ยังไงเราก็ยังเป็นที่หนึ่งของเค้าอยู่ดี ก็น่าเห็นใจค่ะ บางทีอาจนึกสนุก หรืออยากลอง หรือโดนอ่อยซะจนทนไม่ไหว แต่ยังไงก็ตามควรดึงเค้ากลับมาให้เร็วที่สุดนะคะ อย่าปล่อยไว้นาน...ขอเตือน!!!
.
ถามกันมาเยอะค่ะว่า จับได้ว่าเค้ามี “กิ๊ก” ควรจะเลิกดีหรือไม่ ขอแนะนำว่า ควรตอบตัวเองให้ได้ก่อนว่าเรายังรักเค้าอยู่หรือไม่ ถ้าตอบว่าไม่รัก จบเลยค่ะ...เลิก แต่ถ้าตอบว่ารัก ให้สังเกตุพฤติกรรมเค้าดูนะคะว่า
1. เค้าเริ่มปฏิเสธคำชวนเราบ้างหรือไม่ เช่น ชวนไปไหนก็เริ่มปฏิเสธ
2. เค้าไม่ดูแลเอาใจใส่เราเหมือนก่อน ใช่หรือไม่
3. เค้าดูไม่ค่อยสดใสเวลาอยู่กับเราหรือไม่
4. เค้าเริ่มหงุดหงิด ก้าวร้าวใส่เราหรือไม่
5. เค้าหาเรื่องชวนทะเลาะมากขึ้นหรือไม่
6. พักหลังๆเค้าไม่ค่อยชวนเราออกไปเที่ยวหรือไม่
7. เค้าดูไม่ค่อยสนใจในสิ่งที่เราพูดหรือไม่
8. เค้าชอบมองไปที่อื่น ไม่ค่อยสบตาเราหรือไม่
9. เค้าชอบติโน่นตินี่เรามากขึ้นหรือไม่
10. เค้าไม่ไปรับไปส่งเราเหมือนเดิม หรือไม่
11. เค้าไม่ค่อยแคร์ความรู้สึกเราเหมือนก่อน ใช่หรือไม่
12. เค้าไม่แสดงอาการหวงและห่วงเราเหมือนที่เคยทำ ใช่หรือไม่
ถ้าเค้ามีพฤติกรรมอย่างนี้มากกว่า 6 ข้อ น้อง Cupid ขอแนะนำว่า ทำใจเอาไว้บ้างก็ดีค่ะ เพราะมันเป็นลางบอกเหตุแล้วว่า เค้าอาจชอบกิ๊กมากกว่าเราและไม่ค่อยสนใจเราแล้ว รอเวลาชิ่งอย่างเดียว แต่ยังไงก็ควรถามเหตุผลเขาบ้างนะคะ ว่าทำไมถึงทำอย่างนี้ เราไม่ดีตรงไหน จะได้ปรับปรุงตัว และแก้ไขสถานการณ์ให้มันดีขึ้น
ถ้าเค้าไม่ได้มีพฤติกรรมอย่างนี้มากกว่า 8 ข้อ น้อง Cupid ขอแนะนำว่าอย่าเลิกเลยค่ะ เพราะนั่นแสดงว่าเค้ายังแคร์และเกรงใจเราอยู่ เค้ายังปฏิบัติเหมือนเดิม หรือบางทีดีกว่าเดิมด้วยซ้ำ เพื่อปกปิดความผิดของตัวเอง และไม่ว่าเค้าจะมีใครใหม่ ยังไงเราก็ยังเป็นที่หนึ่งของเค้าอยู่ดี ก็น่าเห็นใจค่ะ บางทีอาจนึกสนุก หรืออยากลอง หรือโดนอ่อยซะจนทนไม่ไหว แต่ยังไงก็ตามควรดึงเค้ากลับมาให้เร็วที่สุดนะคะ อย่าปล่อยไว้นาน...ขอเตือน!!!
.
ป้ายกำกับ:
กิ๊ก,
จับได้ว่าเค้ามี “กิ๊ก” ควรจะเลิกดีหรือไม่,
แฟน
เทคนิคการเช็คโทรศัพท์มือถือให้เนียนๆ เมื่อจับได้ว่าแฟนเรามี “กิ๊ก” แต่ยังปากแข็ง
เทคนิคการเช็คโทรศัพท์มือถือให้เนียนๆ เมื่อจับได้ว่าแฟนเรามี “กิ๊ก” แต่ยังปากแข็ง
วิธีนี้อาจจะร้ายไปซักหน่อย แต่น้องCupid แนะนำหลายคนแล้ว ใช้ได้ผลค่ะ เลยมาบอกต่อ เผื่อนำไปปรับใช้ได้ค่ะ แต่ขอเตือนว่า ต้องนานๆทีถึงจะใช้วิธีนี้นะคะ เดี๋ยวเค้ารู้มุขเราหมด
1. อย่าขอแฟนเช็คเบอร์โทรศัพท์มือถือตรงๆ ให้เค้าตายใจก่อนว่า เราเป็นคนไม่ชอบเช็คโทรศัพท์ เค้าจะได้ไม่ระวังตัว จึงไม่ลบข้อมูลการโทร
2. พอเค้าตายใจแล้ว วันไหนฤกษ์งามยามดี หลังจากมีโทรศัพท์ดังขึ้นแล้วเค้าไม่รับ ให้เราลองใช้มุขนี้ดู
เรา : (แกล้งบอกเค้าว่า) ตอนกลางวันเราโทรมาหาเค้าตั้งหลายครั้ง ไม่เห็นเค้ารับเลย
(หรือ) วันนี้ส่ง message มาได้รับป่าว (แต่จริงๆไม่ได้ส่ง)
(หรือ) วันนี้โอนเงินค่าโทรให้ ได้รับป่าว (แต่จริงๆไม่ได้โอน)
(หรือ) โทรศัพท์สวยดี ขอดูหน่อยสิ (ถ้าเค้าเพิ่งซื้อโทรศัพท์มาใหม่)
เค้า : ไม่เห็นได้รับเลย โทรมาตอนไหน(งง)
เรา : ก็ตอนกลางวันไง จะโทรไปบอกว่า.... (เราก็แกล้งอ้างไป) โทรศัพท์เป็นไรป่าวอ่ะ
เค้า : ก็ไม่เห็นเป็นไรเลย ปกติ (งง โอ้จริงหรือนี่ โทรศัพท์เรามีปัญหาหรอ)
เรา : (คะยั้นคะยอขอรับอาสาเช็คมือถือให้) ไหนดูดิ๊ (แล้วหยิบของเค้ามาดูแบบเนียนๆ ด้วยความเป็นห่วง กลัวโทรศัพท์เค้าเสีย)
ถ้าเค้าตกใจ หวงโทรศัพท์มาก ยังไงก็ไม่ยอมให้เราดู ขอแนะนำว่าให้ถามเขาตรงๆเลยดีกว่าว่าทำไมไม่ให้ดู มีเบอร์ใครอยู่ในมือถือ ทำเป็นไม่พอใจจนเค้าให้ดูแต่โดยดี
คราวนี้พอได้มา กดแหลกเลยค่ะ ดูซิใครโทรมา ชื่ออะไร จำเบอร์ไว้ แล้วดูการโทรเข้า โทรออก missed call ว่าเบอร์ซ้ำๆเดิมหรือไม่ ถ้าซ้ำๆเดิม ก็น่าสงสัยค่ะ น้องCupid ขอแนะนำว่าให้ถามไถ่ทันที โชว์หลักฐานให้เค้าเห็นเลยค่ะ เค้าจะไม่ทันตั้งตัวที่จะเตรียมคำแก้ตัวได้
แต่ถ้าไม่ซ้ำเลยก็แปลว่า เราอาจจะคิดไปเองก็ได้ค่ะ เพราะปัจจุบันใครๆก็ใช้โทรศัพท์มือถือในการติดต่อกันทั้งนั้นแหละค่ะ ถ้าไม่มีก็คงไม่มี แต่ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ถ้าไม่รู้ว่าเบอร์ที่โทรมาแล้วเค้าไม่รับเป็นใคร ก็ควรถามเค้า หรือไม่ก็จำเบอร์ไว้ แล้วลองโทรไปเองเลยค่ะ อิอิ แต่ถ้าเป็นโรคหัวใจ แนะนำว่าไม่ควรใช้วิธีนี้นะคะ มันแรงพอดู555
.
วิธีนี้อาจจะร้ายไปซักหน่อย แต่น้องCupid แนะนำหลายคนแล้ว ใช้ได้ผลค่ะ เลยมาบอกต่อ เผื่อนำไปปรับใช้ได้ค่ะ แต่ขอเตือนว่า ต้องนานๆทีถึงจะใช้วิธีนี้นะคะ เดี๋ยวเค้ารู้มุขเราหมด
1. อย่าขอแฟนเช็คเบอร์โทรศัพท์มือถือตรงๆ ให้เค้าตายใจก่อนว่า เราเป็นคนไม่ชอบเช็คโทรศัพท์ เค้าจะได้ไม่ระวังตัว จึงไม่ลบข้อมูลการโทร
2. พอเค้าตายใจแล้ว วันไหนฤกษ์งามยามดี หลังจากมีโทรศัพท์ดังขึ้นแล้วเค้าไม่รับ ให้เราลองใช้มุขนี้ดู
เรา : (แกล้งบอกเค้าว่า) ตอนกลางวันเราโทรมาหาเค้าตั้งหลายครั้ง ไม่เห็นเค้ารับเลย
(หรือ) วันนี้ส่ง message มาได้รับป่าว (แต่จริงๆไม่ได้ส่ง)
(หรือ) วันนี้โอนเงินค่าโทรให้ ได้รับป่าว (แต่จริงๆไม่ได้โอน)
(หรือ) โทรศัพท์สวยดี ขอดูหน่อยสิ (ถ้าเค้าเพิ่งซื้อโทรศัพท์มาใหม่)
เค้า : ไม่เห็นได้รับเลย โทรมาตอนไหน(งง)
เรา : ก็ตอนกลางวันไง จะโทรไปบอกว่า.... (เราก็แกล้งอ้างไป) โทรศัพท์เป็นไรป่าวอ่ะ
เค้า : ก็ไม่เห็นเป็นไรเลย ปกติ (งง โอ้จริงหรือนี่ โทรศัพท์เรามีปัญหาหรอ)
เรา : (คะยั้นคะยอขอรับอาสาเช็คมือถือให้) ไหนดูดิ๊ (แล้วหยิบของเค้ามาดูแบบเนียนๆ ด้วยความเป็นห่วง กลัวโทรศัพท์เค้าเสีย)
ถ้าเค้าตกใจ หวงโทรศัพท์มาก ยังไงก็ไม่ยอมให้เราดู ขอแนะนำว่าให้ถามเขาตรงๆเลยดีกว่าว่าทำไมไม่ให้ดู มีเบอร์ใครอยู่ในมือถือ ทำเป็นไม่พอใจจนเค้าให้ดูแต่โดยดี
คราวนี้พอได้มา กดแหลกเลยค่ะ ดูซิใครโทรมา ชื่ออะไร จำเบอร์ไว้ แล้วดูการโทรเข้า โทรออก missed call ว่าเบอร์ซ้ำๆเดิมหรือไม่ ถ้าซ้ำๆเดิม ก็น่าสงสัยค่ะ น้องCupid ขอแนะนำว่าให้ถามไถ่ทันที โชว์หลักฐานให้เค้าเห็นเลยค่ะ เค้าจะไม่ทันตั้งตัวที่จะเตรียมคำแก้ตัวได้
แต่ถ้าไม่ซ้ำเลยก็แปลว่า เราอาจจะคิดไปเองก็ได้ค่ะ เพราะปัจจุบันใครๆก็ใช้โทรศัพท์มือถือในการติดต่อกันทั้งนั้นแหละค่ะ ถ้าไม่มีก็คงไม่มี แต่ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ถ้าไม่รู้ว่าเบอร์ที่โทรมาแล้วเค้าไม่รับเป็นใคร ก็ควรถามเค้า หรือไม่ก็จำเบอร์ไว้ แล้วลองโทรไปเองเลยค่ะ อิอิ แต่ถ้าเป็นโรคหัวใจ แนะนำว่าไม่ควรใช้วิธีนี้นะคะ มันแรงพอดู555
.
ลางบอกเหตุ ท่าจะไปกันไม่รอดซะแล้ว
ลางบอกเหตุ ท่าจะไปกันไม่รอดซะแล้ว
เมื่อเราคบกับใคร น้องCupid อยากให้คบกับเค้าด้วยสติค่ะ คอยสังเกตุพฤติกรรมแฟนเราด้วยนะคะว่า พฤติกรรมเค้าเปลี่ยนแปลงไปบ้างหรือไม่(ขอย้ำนะคะว่าพฤติกรรมเปลี่ยนแปลงไป) บางทีเค้าอาจจะค้นพบแล้วว่าเรา “ไม่ใช่” แต่เพราะความผูกพัน หรือการไม่กล้าบอกเลิก ทำให้เค้ายังทนคบกับเราเหมือนเดิม แต่ความรู้สึกเค้าไม่เหมือนเดิมซะแล้ว ทีนี้เราจะรู้ได้ยังไงว่าเค้าไม่เหมือนเดิมแล้ว น้องCupid มีวิธีสังเกตุดังนี้ค่ะ
โทรศัพท์
1. ไม่ค่อยรับโทรศัพท์เรา
2. เมื่อไม่ค่อยรับโทรศัพท์แล้ว ก็ยังไม่ค่อยโทรกลับมา
3. ชอบคุยตัดบท พูดน้อยลง
การสนทนากัน
1. อารมณ์หงุดหงิดง่ายขึ้น
2. เค้าจะหาเรื่องชวนทะเลาะบ่อยๆ
3. มุขฮาเริ่มหายไป
4. ระหว่างการสนทนา ดูเหมือนเค้าคิดอะไรอยู่ตลอดเวลา ไม่ค่อยสนใจเรา
พฤติกรรม
1. เป็นคนไม่ค่อยมีเหตุผล
2. ไม่ชวนไปเที่ยวเหมือนก่อน หรือเวลาเราชวนไปเที่ยวเค้าจะหาเหตุผลเพื่อจะไม่ไป
3. เค้ายิ้ม ร่าเริง และหัวเราะ น้อยลง
4. ไม่ห่วงใย และยังสนใจเราน้อยลง
5. เวลาเราทำอะไร ก็ดูไม่ถูกใจเค้าไปซะหมด
6. ชอบบอกว่าช่วงนี้ไม่ว่าง งานเยอะ หรืออยากพักผ่อน(ด้วยการอยู่บ้าน)จัง
7. ไม่ตื่นเต้น เวลาเราเล่าเรื่องตื่นเต้นในชีวิตให้เค้าฟัง
8. เวลากินข้าวด้วยกัน เค้าทำเหมือนอาหารไม่อร่อย หรือบรรยากาศไม่ดี รีบกินรีบไป ไม่เอ้อระเหยเหมือนก่อน
9. ไม่ค่อยสบตา
10. ทำหน้าเบื่อหน่ายอยู่เรื่อยๆ
11. ชอบมองไปที่อื่น ไม่ค่อยมองหน้าเรา หรือไม่ค่อยสนใจเรื่องที่เราพูด
12. ทำตัวล่อกแล่ก ลุกลี้ลุกลน
ถ้าเรารู้อย่างนี้แล้ว ก็ปล่อยนกปล่อยปลาไปดีกว่ามั๊ยคะ ในเมื่อเค้าไม่มีใจให้น่ะ แต่ก่อนเลิกต้องมั่นใจก่อนนะคะว่าความรู้สึกเค้าที่มีต่อเราเปลี่ยนไปจริงๆ ซักถามให้แน่ใจก่อน จะได้ไม่มาเสียใจทีหลังคร่า
นอกจากนี้ต้องมองดูตัวเองด้วยค่ะว่า เราดีพอสำหรับเค้าแล้วหรือยัง ถ้าตอบตัวเองได้ว่ายัง ก็ปรับปรุงตัวเสียใหม่ให้มันดี แต่ถ้าคิดว่าชั้นทำดีที่สุดแล้ว ได้แค่นี้แหละ ก็อย่าไปฝืนค่ะ เพราะมันจะไม่ใช่ตัวเรา สุดท้ายเค้าก็ไปอยู่ดี งั้นก้อประกาศ...เลิก!!
.
แบบทดสอบ แฟนเรากำลังมี “กิ๊ก” อยู่รึป่าว
แบบทดสอบ แฟนเรากำลังมี “กิ๊ก” อยู่รึป่าว
เดี๋ยวนี้คนไทยนิยมมีกิ๊กกันมากขึ้นค่ะ ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน ไม่ปวดหัวกันบ้างเลยหรือ แต่ทั้งหมดก็ไม่ได้หมายความว่าเค้าจะรักเราน้อยลง หรือไม่รักเราแล้วนะคะ บางทีสถานการณ์มันพาไปก็มี ทำให้เค้าเริ่มมีใจให้กับคนอื่น หรือแค่อารมณ์ชั่ววูบก็เป็นไปได้ เราควรหมั่นคอยสังเกตุพฤติกรรมของแฟนเราอยู่เรื่อยๆนะคะ อย่ามัวแต่คิดว่าเค้าเป็นของตาย อะไรก็ไม่แน่ไม่นอน อย่าชะล่าใจค่ะ ลองเช็คดูตามนี้นะคะ ว่าเค้ามีพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปเป็นอย่างนี้บ้างหรือไม่
1. ชอบมาเลยเวลาที่นัดมากขึ้น
2. ชอบขอตัวเข้าห้องน้ำ หรือออกไปข้างนอก
3. เวลาเราไปห้องน้ำ หรือไปสั่งอาหาร กลับมาทีไร จะเห็นเค้ายุ่งอยู่กับโทรศัพท์ทุกที เช่น คุยโทรศัพท์ อ่านmessage ส่งmessage
4. ทำตัวล่อกแล่ก ลนลาน ลุกลี้ลุกลน
5. ไม่ค่อยกล้าสบตา
6. มีเวลาให้เราน้อยลง
7. แต่งตัว แต่งหน้า ทำผม ดูดีขึ้น
8. บางครั้งก็อารมณ์ดีจนผิดสังเกตุ
9. นิสัยดีผิดปกติ ทำตัวดีเกินเหตุ (เพื่อกลบเกลื่อนความผิดตัวเอง)
10. สนใจเรื่องเพศตรงข้าม(เรื่องของเพศเรานั่นแหละ)มากขึ้น เช่น อยากรู้ว่าผู้หญิงชอบอะไร ไม่ชอบอะไร
11. รีบกลับบ้าน โดยอ้างโน่นอ้างนี่ ทำเป็นคนธุระเยอะ
12. ไปรับไปส่งเราถึงที่ (เพื่อจะได้ไปต่อได้อย่างสบายใจ)
13. เป็นนินจา ชอบแว๊บไปไหนไม่รู้
14. เงินเก็บลดลงฮวบ
15. อยู่ๆก็เปลี่ยนจากเสียงโทรศัพท์เข้า เป็นระบบสั่น
16. ถ้าเค้าตั้งเสียงเรียกเข้าเฉพาะเอาไว้ ให้สังเกตุว่าชอบมีโทรศัพท์ดังเป็นเสียงเรียกเข้านี้เข้ามาบ่อย
17. เค้าไม่รับโทรศัพท์(คนอื่น)เหมือนเคย บางทีถึงขนาดไม่ดูหน้าจอด้วยซ้ำไป
18. ถ้าเค้ารับสายเข้า เค้าจะพูดเบา และพูดสั้นๆ พร้อมทิ้งท้าย “เดี๋ยวโทรกลับ”
19. เค้าจะหวงโทรศัพท์มือถือมาก จะวางไว้ใกล้ตัวตลอด
20. พยายามไม่ให้เราหยิบโทรศัพท์เค้าไปเล่นหรือไปดู ถ้าหยิบไป...เป็นเรื่อง
21. ไม่ค่อยรับโทรศัพท์เราเหมือนเคย
22. คุยโทรศัพท์กับเราน้อยลง และวางเร็วขึ้น
23. หลังๆเราเป็นฝ่ายโทรไปหาเค้า มากกว่าเค้าโทรหาเรา
24. เขามักโทรมาหาเราตอนเราอยู่ข้างนอก แล้วถามว่าเราอยู่ที่ไหน แต่ก็ไม่ได้มารับกลับบ้าน (เพื่อเช็คว่า เขากับกิ๊กปลอดภัยแน่นอน เพราะอยู่คนละโซนกับเรา)
25. เวลารับโทรศัพท์เรา เค้ามักจะพูดเบาๆ สั้นๆ เหมือนแอบคุยโทรศัพท์
เป็นยังไงบ้างคะ ถ้าลองเช็คดูแล้วตรงน้อยกว่า 5 ข้อ ก็ขอแสดงความดีใจด้วยค่ะ คุณอาจคิดมากไปเอง ช่วงนี้เค้าอาจกำลังยุ่งๆเรื่องส่วนตัวอยู่ก็ได้ เลยมีพฤติกรรมแปลกๆ แต่ก็อย่าเพิ่งวางใจไป อย่างน้อยเราควรหาเหตุผลให้เจอว่า ทำไมเค้าถึงเปลี่ยนไป และเป็นอย่างนี้นานแค่ไหน ถ้าเป็นเดือน น้องCupid ว่านานค่ะ เช่น มีอยู่คู่นึง ผู้ชายเค้ามีพฤติกรรมเปลี่ยนไป เรื่องเงินเก็บลดฮวบ มีโทรศัพท์เข้ามาบ่อย แล้วเค้าก็พูดจาแปลกๆอย่างเงี๊ย สุดท้ายแฟนเค้าจับได้ว่า เค้าติดพนันอยู่ กำลังโดนทวงหนี้ สุดท้ายก็เลิกกันไป เพราะติดพนัน ทั้งๆที่ตอนแรกระแวงว่าเค้ามีกิ๊ก555
แต่ถ้าลองเช็คดูแล้วตรงมากกว่า 12 ข้อ น้องCupid ขอเตือนให้ระวังไว้เลยค่ะ เพราะมีความเป็นไปได้สูงมากที่เค้าจะแอบมีกิ๊ก!!! แต่ให้ใจเย็นๆนะคะ ตั้งสติ แล้วหาโอกาสคุยกับเค้าแบบเปิดอกดีกว่า อาจจะยังไม่สายเกินไปที่จะดึงเค้ากลับมาได้ อย่าคิดไปเองคนเดียว
แต่ถ้าเค้าไม่ยอมรับอะไรทั้งสิ้น ให้ใช้วิธีแอบดูโทรศัพท์เลยค่ะ(ร้ายไปหน่อย แต่ที่ทำเพราะว่าเค้าปากแข็งหนิคะ) ว่าโทรออก โทรเข้า missed call หรือ messageเข้า ออก ส่วนใหญ่เบอร์อะไร ซ้ำๆกันหรือไม่ ถ้าใช่ ลองโทรไปหาเลยค่ะ หรือให้เพื่อนที่ไว้ใจได้(ว่าเราจะไม่โดนเมาส์ลับหลัง)โทรให้ก็ได้ เพื่อความแน่ใจว่า เค้าเป็นใคร ทำงานที่ไหน เป็นอะไรกับแฟนเรา แล้วรอฟังคำตอบ โชคดีนะคะ..อย่าพึ่งช๊อกหงายหลัง
.
เดี๋ยวนี้คนไทยนิยมมีกิ๊กกันมากขึ้นค่ะ ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน ไม่ปวดหัวกันบ้างเลยหรือ แต่ทั้งหมดก็ไม่ได้หมายความว่าเค้าจะรักเราน้อยลง หรือไม่รักเราแล้วนะคะ บางทีสถานการณ์มันพาไปก็มี ทำให้เค้าเริ่มมีใจให้กับคนอื่น หรือแค่อารมณ์ชั่ววูบก็เป็นไปได้ เราควรหมั่นคอยสังเกตุพฤติกรรมของแฟนเราอยู่เรื่อยๆนะคะ อย่ามัวแต่คิดว่าเค้าเป็นของตาย อะไรก็ไม่แน่ไม่นอน อย่าชะล่าใจค่ะ ลองเช็คดูตามนี้นะคะ ว่าเค้ามีพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปเป็นอย่างนี้บ้างหรือไม่
1. ชอบมาเลยเวลาที่นัดมากขึ้น
2. ชอบขอตัวเข้าห้องน้ำ หรือออกไปข้างนอก
3. เวลาเราไปห้องน้ำ หรือไปสั่งอาหาร กลับมาทีไร จะเห็นเค้ายุ่งอยู่กับโทรศัพท์ทุกที เช่น คุยโทรศัพท์ อ่านmessage ส่งmessage
4. ทำตัวล่อกแล่ก ลนลาน ลุกลี้ลุกลน
5. ไม่ค่อยกล้าสบตา
6. มีเวลาให้เราน้อยลง
7. แต่งตัว แต่งหน้า ทำผม ดูดีขึ้น
8. บางครั้งก็อารมณ์ดีจนผิดสังเกตุ
9. นิสัยดีผิดปกติ ทำตัวดีเกินเหตุ (เพื่อกลบเกลื่อนความผิดตัวเอง)
10. สนใจเรื่องเพศตรงข้าม(เรื่องของเพศเรานั่นแหละ)มากขึ้น เช่น อยากรู้ว่าผู้หญิงชอบอะไร ไม่ชอบอะไร
11. รีบกลับบ้าน โดยอ้างโน่นอ้างนี่ ทำเป็นคนธุระเยอะ
12. ไปรับไปส่งเราถึงที่ (เพื่อจะได้ไปต่อได้อย่างสบายใจ)
13. เป็นนินจา ชอบแว๊บไปไหนไม่รู้
14. เงินเก็บลดลงฮวบ
15. อยู่ๆก็เปลี่ยนจากเสียงโทรศัพท์เข้า เป็นระบบสั่น
16. ถ้าเค้าตั้งเสียงเรียกเข้าเฉพาะเอาไว้ ให้สังเกตุว่าชอบมีโทรศัพท์ดังเป็นเสียงเรียกเข้านี้เข้ามาบ่อย
17. เค้าไม่รับโทรศัพท์(คนอื่น)เหมือนเคย บางทีถึงขนาดไม่ดูหน้าจอด้วยซ้ำไป
18. ถ้าเค้ารับสายเข้า เค้าจะพูดเบา และพูดสั้นๆ พร้อมทิ้งท้าย “เดี๋ยวโทรกลับ”
19. เค้าจะหวงโทรศัพท์มือถือมาก จะวางไว้ใกล้ตัวตลอด
20. พยายามไม่ให้เราหยิบโทรศัพท์เค้าไปเล่นหรือไปดู ถ้าหยิบไป...เป็นเรื่อง
21. ไม่ค่อยรับโทรศัพท์เราเหมือนเคย
22. คุยโทรศัพท์กับเราน้อยลง และวางเร็วขึ้น
23. หลังๆเราเป็นฝ่ายโทรไปหาเค้า มากกว่าเค้าโทรหาเรา
24. เขามักโทรมาหาเราตอนเราอยู่ข้างนอก แล้วถามว่าเราอยู่ที่ไหน แต่ก็ไม่ได้มารับกลับบ้าน (เพื่อเช็คว่า เขากับกิ๊กปลอดภัยแน่นอน เพราะอยู่คนละโซนกับเรา)
25. เวลารับโทรศัพท์เรา เค้ามักจะพูดเบาๆ สั้นๆ เหมือนแอบคุยโทรศัพท์
เป็นยังไงบ้างคะ ถ้าลองเช็คดูแล้วตรงน้อยกว่า 5 ข้อ ก็ขอแสดงความดีใจด้วยค่ะ คุณอาจคิดมากไปเอง ช่วงนี้เค้าอาจกำลังยุ่งๆเรื่องส่วนตัวอยู่ก็ได้ เลยมีพฤติกรรมแปลกๆ แต่ก็อย่าเพิ่งวางใจไป อย่างน้อยเราควรหาเหตุผลให้เจอว่า ทำไมเค้าถึงเปลี่ยนไป และเป็นอย่างนี้นานแค่ไหน ถ้าเป็นเดือน น้องCupid ว่านานค่ะ เช่น มีอยู่คู่นึง ผู้ชายเค้ามีพฤติกรรมเปลี่ยนไป เรื่องเงินเก็บลดฮวบ มีโทรศัพท์เข้ามาบ่อย แล้วเค้าก็พูดจาแปลกๆอย่างเงี๊ย สุดท้ายแฟนเค้าจับได้ว่า เค้าติดพนันอยู่ กำลังโดนทวงหนี้ สุดท้ายก็เลิกกันไป เพราะติดพนัน ทั้งๆที่ตอนแรกระแวงว่าเค้ามีกิ๊ก555
แต่ถ้าลองเช็คดูแล้วตรงมากกว่า 12 ข้อ น้องCupid ขอเตือนให้ระวังไว้เลยค่ะ เพราะมีความเป็นไปได้สูงมากที่เค้าจะแอบมีกิ๊ก!!! แต่ให้ใจเย็นๆนะคะ ตั้งสติ แล้วหาโอกาสคุยกับเค้าแบบเปิดอกดีกว่า อาจจะยังไม่สายเกินไปที่จะดึงเค้ากลับมาได้ อย่าคิดไปเองคนเดียว
แต่ถ้าเค้าไม่ยอมรับอะไรทั้งสิ้น ให้ใช้วิธีแอบดูโทรศัพท์เลยค่ะ(ร้ายไปหน่อย แต่ที่ทำเพราะว่าเค้าปากแข็งหนิคะ) ว่าโทรออก โทรเข้า missed call หรือ messageเข้า ออก ส่วนใหญ่เบอร์อะไร ซ้ำๆกันหรือไม่ ถ้าใช่ ลองโทรไปหาเลยค่ะ หรือให้เพื่อนที่ไว้ใจได้(ว่าเราจะไม่โดนเมาส์ลับหลัง)โทรให้ก็ได้ เพื่อความแน่ใจว่า เค้าเป็นใคร ทำงานที่ไหน เป็นอะไรกับแฟนเรา แล้วรอฟังคำตอบ โชคดีนะคะ..อย่าพึ่งช๊อกหงายหลัง
.
ป้ายกำกับ:
กิ๊ก,
แบบทดสอบ,
แบบทดสอบ แฟนเรากำลังมี “กิ๊ก” อยู่รึป่าว,
แฟน
40 แล้ว ไม่อยากขึ้นคาน ทำไงดี
40 แล้ว ไม่อยากขึ้นคาน ทำไงดี
ปาอะไรที่ผู้หญิงเค้ากลัวกัน ก็ปาเข้าไปตั้ง 40 แล้วยังไม่ได้แต่งงานซักทีไง 555 ล้อเล่นจ้ะ ก็แค่ยังไม่เจอคนที่ใช่ซักที ไม่เป็นไรค่ะ ยังไม่สาย ผู้ชายเค้า 40-49 ยังดูหนุ่มอยู่เลย งั้นจะมัวช้าอยู่ทำไม ลุยกันเลย
1. เปิดตัว เริ่มเข้าสังคม เช่น ถ้ามีเวลาหน่อยก็ไปลงเรียนปริญญาโทของผู้บริหาร หรือถ้าไม่มีเวลา ก็ลง course สั้นๆ เช่น หลักสูตรผู้บริหาร 3 เดือน (วันเดียวหรือ 3 วันไม่เอานะ ไม่ได้อะไรเลย) หรือเข้าสมาคมต่างๆ ที่มีพวก สว.(ผู้สูงวัย) อยู่เยอะๆ
2. ทำนามบัตรรอไว้เลย เขียนด้วยว่า น.ส. ไม่ต้องอายค่ะ
3. ใครมาคุยให้คุยแหลก แต่ระวังคนที่เค้าแต่งงานแล้วนะคะ เดี๋ยวมีเรื่อง!!
4. ถ้าโดนจีบ อย่าเรื่องมากและเลือกมาก เพราะเราพ้นวัยที่จะเลือกแล้วค่ะ ลองเดทกับเค้าดูก็ดีเหมือนกัน
5. เรื่องที่จะคุยกัน ควรเป็นเรื่องผู้ใหญ่มากกว่าค่ะ เช่น เรื่องธุรกิจ การเมือง เศรษฐกิจ หรือการท่องเที่ยว ลองดูว่าเค้าชอบเรื่องอะไร ก็คุยเรื่องนั้น
6. เวลานัดเดทกัน ควรถามไถ่เรื่องอดีตของเค้าบ้าง เช่น ทำไมเค้ายังไม่แต่งงาน ส่วนใหญ่ผู้หญิงเป็นฝ่ายทิ้งเค้าหรือเค้าทิ้งผู้หญิง และเพราะอะไร หรือถ้าเค้าหย่าแล้ว ทำไมถึงหย่า(ถามแบบสุภาพนะคะ ไม่ใช่คาดคั้นจะเป็นจะตาย) แล้วเรามาพิจารณาดูว่าแบบนี้เราชอบหรือไม่ หรือเค้าพูดโกหกหรือไม่ เพื่อจะได้รู้ว่าจะสานสัมพันธ์ต่อไปหรือไม่ หรือจะพิสูจน์อย่างไรต่อไป
7. ต้องคิดนิดนึงว่า ผู้ชายดีๆทำไมจึงอยู่เป็นโสดมาได้จนป่านนี้ เราต้องหาเหตุและผลให้เจอ ก่อนที่จะหลงไปชอบคนที่เค้ามีเจ้าของแล้วนะคะ เพราะผู้เฒ่าหลายคนนิยมมีกิ๊ก จึงต้องพิจารณาดูดีๆก่อนตัดสินใจคบเค้า
ก็ลำบากบ้างเล็กน้อยค่ะ เพราะต้องพิสูจน์ให้ได้ว่า เราได้ของใหม่กิ๊ก หรือของใหม่แต่มีตำหนิ หรือของมือสอง (มือหนึ่งเค้าไม่เอาแล้ว) หรือของสองมือ (มือหนึ่งก็ยังอยู่) แต่อย่าเพิ่งท้อนะคะ อายุเป็นเพียงแค่ตัวเลข เดี๋ยวนี้น้องCupid เห็นอายุ 50 บางคนยังสวยปิ๊งอยู่เลย จะได้มีเพื่อนไว้คุยแก้เหงาไงคะ หรือเผื่อเจ็บป่วยจะได้มีคนดูแล มีช้าก็ยังดีกว่าไม่มีนะคะ แต่ถ้ามีแล้วไม่ดีก็อย่ามีดีกว่า คิคิ
.
ปาอะไรที่ผู้หญิงเค้ากลัวกัน ก็ปาเข้าไปตั้ง 40 แล้วยังไม่ได้แต่งงานซักทีไง 555 ล้อเล่นจ้ะ ก็แค่ยังไม่เจอคนที่ใช่ซักที ไม่เป็นไรค่ะ ยังไม่สาย ผู้ชายเค้า 40-49 ยังดูหนุ่มอยู่เลย งั้นจะมัวช้าอยู่ทำไม ลุยกันเลย
1. เปิดตัว เริ่มเข้าสังคม เช่น ถ้ามีเวลาหน่อยก็ไปลงเรียนปริญญาโทของผู้บริหาร หรือถ้าไม่มีเวลา ก็ลง course สั้นๆ เช่น หลักสูตรผู้บริหาร 3 เดือน (วันเดียวหรือ 3 วันไม่เอานะ ไม่ได้อะไรเลย) หรือเข้าสมาคมต่างๆ ที่มีพวก สว.(ผู้สูงวัย) อยู่เยอะๆ
2. ทำนามบัตรรอไว้เลย เขียนด้วยว่า น.ส. ไม่ต้องอายค่ะ
3. ใครมาคุยให้คุยแหลก แต่ระวังคนที่เค้าแต่งงานแล้วนะคะ เดี๋ยวมีเรื่อง!!
4. ถ้าโดนจีบ อย่าเรื่องมากและเลือกมาก เพราะเราพ้นวัยที่จะเลือกแล้วค่ะ ลองเดทกับเค้าดูก็ดีเหมือนกัน
5. เรื่องที่จะคุยกัน ควรเป็นเรื่องผู้ใหญ่มากกว่าค่ะ เช่น เรื่องธุรกิจ การเมือง เศรษฐกิจ หรือการท่องเที่ยว ลองดูว่าเค้าชอบเรื่องอะไร ก็คุยเรื่องนั้น
6. เวลานัดเดทกัน ควรถามไถ่เรื่องอดีตของเค้าบ้าง เช่น ทำไมเค้ายังไม่แต่งงาน ส่วนใหญ่ผู้หญิงเป็นฝ่ายทิ้งเค้าหรือเค้าทิ้งผู้หญิง และเพราะอะไร หรือถ้าเค้าหย่าแล้ว ทำไมถึงหย่า(ถามแบบสุภาพนะคะ ไม่ใช่คาดคั้นจะเป็นจะตาย) แล้วเรามาพิจารณาดูว่าแบบนี้เราชอบหรือไม่ หรือเค้าพูดโกหกหรือไม่ เพื่อจะได้รู้ว่าจะสานสัมพันธ์ต่อไปหรือไม่ หรือจะพิสูจน์อย่างไรต่อไป
7. ต้องคิดนิดนึงว่า ผู้ชายดีๆทำไมจึงอยู่เป็นโสดมาได้จนป่านนี้ เราต้องหาเหตุและผลให้เจอ ก่อนที่จะหลงไปชอบคนที่เค้ามีเจ้าของแล้วนะคะ เพราะผู้เฒ่าหลายคนนิยมมีกิ๊ก จึงต้องพิจารณาดูดีๆก่อนตัดสินใจคบเค้า
ก็ลำบากบ้างเล็กน้อยค่ะ เพราะต้องพิสูจน์ให้ได้ว่า เราได้ของใหม่กิ๊ก หรือของใหม่แต่มีตำหนิ หรือของมือสอง (มือหนึ่งเค้าไม่เอาแล้ว) หรือของสองมือ (มือหนึ่งก็ยังอยู่) แต่อย่าเพิ่งท้อนะคะ อายุเป็นเพียงแค่ตัวเลข เดี๋ยวนี้น้องCupid เห็นอายุ 50 บางคนยังสวยปิ๊งอยู่เลย จะได้มีเพื่อนไว้คุยแก้เหงาไงคะ หรือเผื่อเจ็บป่วยจะได้มีคนดูแล มีช้าก็ยังดีกว่าไม่มีนะคะ แต่ถ้ามีแล้วไม่ดีก็อย่ามีดีกว่า คิคิ
.
ป้ายกำกับ:
40 แล้ว ไม่อยากขึ้นคาน ทำไงดี,
คู่แท้,
หาคู่,
หาแฟน,
อยากมีแฟน
อย่าแต่งงาน ถ้า...
อย่าแต่งงาน ถ้า...
1. อย่าแต่งงาน ถ้าเหตุผลคือ คุณเหงาและไม่มีใคร
2. อย่าแต่งงาน ถ้าเหตุผลคือ คุณกลัวไม่ได้แต่งงาน หรือกลัวขึ้นคาน
3. อย่าแต่งงาน ถ้าเหตุผลคือ เพราะเขารวย แถมดูดีมีชาติตระกูล
4. อย่าแต่งงาน ถ้าเหตุผลคือ เพราะเขาหน้าตาดี(อย่างเดียว)
5. อย่าแต่งงาน ถ้าเหตุผลคือ เห็นคนอื่นแต่ง แล้วอยากแต่งบ้าง
6. อย่าแต่งงาน ถ้าคุณไม่ได้รู้จักเขาดีพอ
7. อย่าแต่งงาน ถ้าคุณไม่ได้รักเขาเลยซักนิด
8. อย่าแต่งงาน ถ้าคุณแค่ต้องการโอ้อวดคนอื่น
9. อย่าแต่งงาน ถ้าคุณแค่ต้องการลบคำสบประมาทจากคนรอบข้าง
10. อย่าแต่งงาน ถ้าคุณแค่ต้องการประชดแฟนเก่า
11. อย่าแต่งงาน ถ้าคุณแค่โดนคนรอบข้างยุให้แต่ง
12. อย่าแต่งงาน ถ้าคุณคิดว่า ไว้ค่อยไปเรียนรู้กันไปหลังแต่งงานก็ได้
13. อย่าแต่งงาน ถ้าคุณแค่อยากหลีกหนีสภาพครอบครัวปัจจุบัน
14. อย่าแต่งงาน ถ้าคุณคาดหวังว่า คุณสามารถทำให้เขามารักคุณได้
15. อย่าแต่งงาน ถ้าคุณคาดหวังว่า ซักวันคุณอาจจะรักเขาขึ้นมาก็ได้
16. อย่าแต่งงาน ถ้าคุณคาดหวังว่า คุณสามารถเปลี่ยนแปลงเขาได้ และเขาจะอยู่ในโอวาสของคุณ
17. อย่าแต่งงาน ถ้าคุณยังฝันหวานว่า เขาคือคนที่เพอร์เฟคที่สุดในโลก
18. อย่าแต่งงาน ถ้าคุณรักคนอื่นมากกว่าเขา
19. อย่าแต่งงาน ถ้าคุณยังลืมอดีตคนรักเก่าไม่ลง
20. อย่าแต่งงาน ถ้าคุณยังมองไม่เห็นอนาคตของชีวิต
สุดท้าย..อย่าแต่งงาน ถ้าคุณไม่ได้มีความสุขเมื่อลองชุดแต่งงาน ไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นกับชีวิต และไม่ได้มีความสุขก่อนวันแต่งงาน ขอให้หยุดคิดซักนิดก่อนตัดสินใจนะคะ จุ๊บ จุ๊บ
.
1. อย่าแต่งงาน ถ้าเหตุผลคือ คุณเหงาและไม่มีใคร
2. อย่าแต่งงาน ถ้าเหตุผลคือ คุณกลัวไม่ได้แต่งงาน หรือกลัวขึ้นคาน
3. อย่าแต่งงาน ถ้าเหตุผลคือ เพราะเขารวย แถมดูดีมีชาติตระกูล
4. อย่าแต่งงาน ถ้าเหตุผลคือ เพราะเขาหน้าตาดี(อย่างเดียว)
5. อย่าแต่งงาน ถ้าเหตุผลคือ เห็นคนอื่นแต่ง แล้วอยากแต่งบ้าง
6. อย่าแต่งงาน ถ้าคุณไม่ได้รู้จักเขาดีพอ
7. อย่าแต่งงาน ถ้าคุณไม่ได้รักเขาเลยซักนิด
8. อย่าแต่งงาน ถ้าคุณแค่ต้องการโอ้อวดคนอื่น
9. อย่าแต่งงาน ถ้าคุณแค่ต้องการลบคำสบประมาทจากคนรอบข้าง
10. อย่าแต่งงาน ถ้าคุณแค่ต้องการประชดแฟนเก่า
11. อย่าแต่งงาน ถ้าคุณแค่โดนคนรอบข้างยุให้แต่ง
12. อย่าแต่งงาน ถ้าคุณคิดว่า ไว้ค่อยไปเรียนรู้กันไปหลังแต่งงานก็ได้
13. อย่าแต่งงาน ถ้าคุณแค่อยากหลีกหนีสภาพครอบครัวปัจจุบัน
14. อย่าแต่งงาน ถ้าคุณคาดหวังว่า คุณสามารถทำให้เขามารักคุณได้
15. อย่าแต่งงาน ถ้าคุณคาดหวังว่า ซักวันคุณอาจจะรักเขาขึ้นมาก็ได้
16. อย่าแต่งงาน ถ้าคุณคาดหวังว่า คุณสามารถเปลี่ยนแปลงเขาได้ และเขาจะอยู่ในโอวาสของคุณ
17. อย่าแต่งงาน ถ้าคุณยังฝันหวานว่า เขาคือคนที่เพอร์เฟคที่สุดในโลก
18. อย่าแต่งงาน ถ้าคุณรักคนอื่นมากกว่าเขา
19. อย่าแต่งงาน ถ้าคุณยังลืมอดีตคนรักเก่าไม่ลง
20. อย่าแต่งงาน ถ้าคุณยังมองไม่เห็นอนาคตของชีวิต
สุดท้าย..อย่าแต่งงาน ถ้าคุณไม่ได้มีความสุขเมื่อลองชุดแต่งงาน ไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นกับชีวิต และไม่ได้มีความสุขก่อนวันแต่งงาน ขอให้หยุดคิดซักนิดก่อนตัดสินใจนะคะ จุ๊บ จุ๊บ
.
คู่แบบไหนมีโอกาสเลิกกันสูง
คู่แบบไหนมีโอกาสเลิกกันสูง
คู่ที่มีโอกาสเลิกกันสูงมาก
1. คู่ที่รู้อยู่แล้วว่าเค้ามีแฟนแล้ว แต่ก็ยังไปแย่งเค้ามา
2. คู่ที่ตั้งใจเลิกกับแฟน(ทั้งๆที่ไม่ได้มีปัญหากัน) เพื่อมาคบกับคนใหม่(ที่เค้าคิดว่าดีกว่า)
3. คู่ที่ไลฟ์สไตล์ต่างกันมากเกินไป
4. คู่ที่ผู้ชายเซ็กส์จัด แต่ผู้หญิงไม่เล่นด้วย
5. คู่ที่ฐานะเดิมของผู้หญิงดีกว่าผู้ชายมากๆ
6. คู่ที่มีความรู้รอบตัวต่างกันมากๆ
7. คู่ที่มีคนขี้หึงมากๆ
8. คู่ที่ในช่วงแรก รักกันหวานเลี่ยนมากๆ
9. คู่ที่ติ๊สแตก ไม่แคร์สังคม
10. คู่ที่อายที่จะแสดงความรักกัน
11. คู่ที่ผู้หญิงทำงานหาเงินเก่งมาก แต่ผู้ชายขี้เกียจตัวเป็นขน
12. คู่ที่ผู้ชายเจ้าชู้มากๆ
13. คู่ที่ผู้หญิงเก่ง ฉลาดไปซะทุกเรื่อง และชอบดูถูกผู้ชาย
14. คู่ที่คบกันเอง(ไม่ได้มีใครเป็นแม่สื่อ)ไม่กี่เดือน ก็แต่งงานหรือผู้หญิงท้องซะก่อน
15. คู่ที่ฝืนคบกันไป โดยที่คิดว่าซักวันมันจะดีขึ้น
คู่ที่น่าเป็นห่วง
1. คู่ที่โดนคลุมถุงชน
2. คู่ที่นิสัย การศึกษา ฐานะเดิมต่างกันมาก
3. คู่ที่คนใดคนนึงทำงานสบายๆกลับบ้านเร็ว ส่วนอีกคนทำงานกลับดึก จนบางทีแทบไม่มีเวลากินข้าว
4. คู่ที่คนรอบข้างต่อต้านมาก
5. คู่ที่ผู้หญิงไม่แตะงานบ้านงานเรือนเลย
คู่เหล่านี้ต้องอาศัยเวลาปรับตัว อดทน และใช้เวลาเรียนรู้ซึ่งกันและกัน เติมเต็มให้แก่กันมากกว่าคู่ทั่วไป ก็จะไปกันรอด และถ้าฝ่าด่านมาได้ เผลอๆความรักจะดีกว่าคู่ทั่วไปด้วยค่ะ ขอให้ทั้งคู่ประคองความรักไปกันให้ได้นะคะ ขอเอาใจช่วย :D
.
คู่ที่มีโอกาสเลิกกันสูงมาก
1. คู่ที่รู้อยู่แล้วว่าเค้ามีแฟนแล้ว แต่ก็ยังไปแย่งเค้ามา
2. คู่ที่ตั้งใจเลิกกับแฟน(ทั้งๆที่ไม่ได้มีปัญหากัน) เพื่อมาคบกับคนใหม่(ที่เค้าคิดว่าดีกว่า)
3. คู่ที่ไลฟ์สไตล์ต่างกันมากเกินไป
4. คู่ที่ผู้ชายเซ็กส์จัด แต่ผู้หญิงไม่เล่นด้วย
5. คู่ที่ฐานะเดิมของผู้หญิงดีกว่าผู้ชายมากๆ
6. คู่ที่มีความรู้รอบตัวต่างกันมากๆ
7. คู่ที่มีคนขี้หึงมากๆ
8. คู่ที่ในช่วงแรก รักกันหวานเลี่ยนมากๆ
9. คู่ที่ติ๊สแตก ไม่แคร์สังคม
10. คู่ที่อายที่จะแสดงความรักกัน
11. คู่ที่ผู้หญิงทำงานหาเงินเก่งมาก แต่ผู้ชายขี้เกียจตัวเป็นขน
12. คู่ที่ผู้ชายเจ้าชู้มากๆ
13. คู่ที่ผู้หญิงเก่ง ฉลาดไปซะทุกเรื่อง และชอบดูถูกผู้ชาย
14. คู่ที่คบกันเอง(ไม่ได้มีใครเป็นแม่สื่อ)ไม่กี่เดือน ก็แต่งงานหรือผู้หญิงท้องซะก่อน
15. คู่ที่ฝืนคบกันไป โดยที่คิดว่าซักวันมันจะดีขึ้น
คู่ที่น่าเป็นห่วง
1. คู่ที่โดนคลุมถุงชน
2. คู่ที่นิสัย การศึกษา ฐานะเดิมต่างกันมาก
3. คู่ที่คนใดคนนึงทำงานสบายๆกลับบ้านเร็ว ส่วนอีกคนทำงานกลับดึก จนบางทีแทบไม่มีเวลากินข้าว
4. คู่ที่คนรอบข้างต่อต้านมาก
5. คู่ที่ผู้หญิงไม่แตะงานบ้านงานเรือนเลย
คู่เหล่านี้ต้องอาศัยเวลาปรับตัว อดทน และใช้เวลาเรียนรู้ซึ่งกันและกัน เติมเต็มให้แก่กันมากกว่าคู่ทั่วไป ก็จะไปกันรอด และถ้าฝ่าด่านมาได้ เผลอๆความรักจะดีกว่าคู่ทั่วไปด้วยค่ะ ขอให้ทั้งคู่ประคองความรักไปกันให้ได้นะคะ ขอเอาใจช่วย :D
.
ป้ายกำกับ:
ข้อคิด,
คู่แบบไหนมีโอกาสเลิกกันสูง,
ผู้ชาย,
ผู้หญิง
“คุยโทรศัพท์” ยังไงให้ชนะใจหญิง
"คุยโทรศัพท์" ยังไงให้ชนะใจหญิง
โทรศัพท์มีประโยชน์มากมาย นอกจากเอาไว้คุยธุระสำคัญแล้ว ยังมีประโยชน์ต่อสาวก cupid อีกด้วย เช่น
1. เอาไว้จีบหญิง
2. เอาไว้ง้อหญิง
3. เอาไว้จับผิด เวลามีกิ๊กโทรมา
4. เอาไว้เป็นจำเลย เพราะทำให้แฟนเค้าทะเลาะกัน เวลาไม่รับสาย
5. เอาไว้ระบายเวลาโกรธ โดยการขว้างปา (ไม่แนะนำนะคะ เพราะนอกจากเสียเงินแล้ว มันยังไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้นด้วยค่ะ)
ดังนั้น วันๆนึง เราใช้โทรศัพท์ติดต่อกันเยอะมาก การคุยโทรศัพท์จึงเป็นเรื่องสำคัญ แม้เป็นคำพูดเล็กน้อย แต่บางครั้งก็ได้ความรู้สึกที่ดีขึ้นมาได้ ควรถามคำถามแสดงให้เค้ารู้สึกว่าเราเป็นห่วงบ้าง ไม่ใช่มัวแต่คุยเรื่องของตัวเอง หรือถามไปงั้นๆแหละ น้องCupid มีตัวอย่างมาให้ลองทำค่ะ
คำถามเดิม : วันนี้จะกลับยังไง (ก็กลับรถเมล์)
คำถามใหม่ : วันนี้จะกลับยังไง จะให้ไปรับมั๊ย (โอ๊ย ดีจังเลยไม่ต้องกลับเอง)
คำถามเดิม : กินข้าวรึยัง (ยังไม่ได้กิน ทำงานก่อน)
คำถามใหม่ : กินข้าวรึยัง ควรจะไปกินนะเดี๋ยวเป็นโรคกระเพาะ (โอ๊ย ห่วงเราด้วยอ่ะ)
ผู้หญิงถาม : ยังไม่นอนหรอ
คำตอบเดิม : ยังไม่ง่วงเลย
คำตอบใหม่ : นอนไม่หลับอ่ะ คิดถึง... (ว๊าว จริงป่าว)
คุยแบบเดิม : เนี่ยวันนี้เรานะ..... (แล้วก็เล่าแต่เรื่องของตัวเอง)
คุยแบบใหม่ : เป็นไงมั่ง วันนี้ทำงานเหนื่อยมั๊ย(แล้วฟังเรื่องของเค้า)
อย่าลืมลองเปลี่ยนดูนะคะ จะใช้กับคนที่เรารักแบบแฟน แบบเพื่อน หรือคนในครอบครัวก็ได้ค่ะ แล้วจะรู้ว่าโลกของคุณสดใสขึ้นเยอะเลย คุณห่วงใยเค้า เค้าก็จะห่วงใยคุณ
.
โทรศัพท์มีประโยชน์มากมาย นอกจากเอาไว้คุยธุระสำคัญแล้ว ยังมีประโยชน์ต่อสาวก cupid อีกด้วย เช่น
1. เอาไว้จีบหญิง
2. เอาไว้ง้อหญิง
3. เอาไว้จับผิด เวลามีกิ๊กโทรมา
4. เอาไว้เป็นจำเลย เพราะทำให้แฟนเค้าทะเลาะกัน เวลาไม่รับสาย
5. เอาไว้ระบายเวลาโกรธ โดยการขว้างปา (ไม่แนะนำนะคะ เพราะนอกจากเสียเงินแล้ว มันยังไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้นด้วยค่ะ)
ดังนั้น วันๆนึง เราใช้โทรศัพท์ติดต่อกันเยอะมาก การคุยโทรศัพท์จึงเป็นเรื่องสำคัญ แม้เป็นคำพูดเล็กน้อย แต่บางครั้งก็ได้ความรู้สึกที่ดีขึ้นมาได้ ควรถามคำถามแสดงให้เค้ารู้สึกว่าเราเป็นห่วงบ้าง ไม่ใช่มัวแต่คุยเรื่องของตัวเอง หรือถามไปงั้นๆแหละ น้องCupid มีตัวอย่างมาให้ลองทำค่ะ
คำถามเดิม : วันนี้จะกลับยังไง (ก็กลับรถเมล์)
คำถามใหม่ : วันนี้จะกลับยังไง จะให้ไปรับมั๊ย (โอ๊ย ดีจังเลยไม่ต้องกลับเอง)
คำถามเดิม : กินข้าวรึยัง (ยังไม่ได้กิน ทำงานก่อน)
คำถามใหม่ : กินข้าวรึยัง ควรจะไปกินนะเดี๋ยวเป็นโรคกระเพาะ (โอ๊ย ห่วงเราด้วยอ่ะ)
ผู้หญิงถาม : ยังไม่นอนหรอ
คำตอบเดิม : ยังไม่ง่วงเลย
คำตอบใหม่ : นอนไม่หลับอ่ะ คิดถึง... (ว๊าว จริงป่าว)
คุยแบบเดิม : เนี่ยวันนี้เรานะ..... (แล้วก็เล่าแต่เรื่องของตัวเอง)
คุยแบบใหม่ : เป็นไงมั่ง วันนี้ทำงานเหนื่อยมั๊ย(แล้วฟังเรื่องของเค้า)
อย่าลืมลองเปลี่ยนดูนะคะ จะใช้กับคนที่เรารักแบบแฟน แบบเพื่อน หรือคนในครอบครัวก็ได้ค่ะ แล้วจะรู้ว่าโลกของคุณสดใสขึ้นเยอะเลย คุณห่วงใยเค้า เค้าก็จะห่วงใยคุณ
.
ป้ายกำกับ:
“คุยโทรศัพท์” ยังไงให้ชนะใจหญิง,
โทรศัพท์,
ผู้ชาย,
แฟน
ข้อคิดสำหรับ “มือใหม่หัดมีแฟน” (ตอนที่ 2)
ข้อคิดสำหรับ “มือใหม่หัดมีแฟน” (ตอนที่ 2)
21. ถ้ามีปัญหาอะไรกัน ต้องรีบเคลียร์กันให้จบ อย่าเก็บไว้นาน
22. อย่าสร้างสถานการณ์อึมครึมเรื่อยๆ เพราะมันจะทำให้การมาเจอกันเป็นความทุกข์มากกว่าความสุข
23. ให้เกียรติและไว้ใจเค้าบ้าง
24. อย่าคบเผื่อเลือก มันไม่เป็นผลดีกับใครเลย
25. อย่าดีแต่พูดอย่างเดียว ควรทำอะไรให้เค้าเห็นบ้าง
26. อย่าขุดคุ้ยเรื่องไม่ดีเก่าๆมาพูด
27. ต้องรู้จักให้อภัยกัน
28. ขอโทษให้เป็น อย่าคิดว่าการขอโทษเป็นเรื่องศักดิ์ศรี
29. จำไว้ว่า เราไม่ใช่เจ้าชีวิตเค้า ดังนั้นอย่าบงการเค้าไปซะทุกเรื่อง
30. อย่าพยายามเปลี่ยนให้เขาเป็นแบบที่เราต้องการ ซึ่งมันไม่ใช้ตัวเขา แต่ควรพยายามยอมรับในสิ่งที่เขาเป็นให้ได้
31. อย่าเปลี่ยนตัวเราจนสูญเสียความเป็นตัวของตัวเอง เพียงเพื่อให้เค้ามารัก
32. ต้องรู้จักปรับตัวเข้าหากันบ้าง เพราะแต่ละคนถูกเลี้ยงดูมาไม่เหมือนกัน
33. ใจเย็นๆค่อยๆเรียนรู้นิสัยกันไป ไม่ต้องรีบร้อน ความเป็นตัวตนของเขาจะแสดงออกมามากขึ้นเรื่อยๆเอง
34. บอกความรู้สึกหรือความคิดของเราให้เค้ารู้บ้าง อย่าให้เค้าเดาไปเอง
35. ถามความรู้สึกหรือความคิดของเขาบ้าง ไม่ใช่คิดไปเอง
36. อย่ามัวแต่ฝันหวาน เพราะเค้าไม่ใช่คนดี คนน่ารัก เหมือนตอนแรกที่คุณรู้จักหรอก
37. หากคุณคบกับเขาแล้วทุกข์หรือเครียด ควรมาเคลียร์กัน อย่าทนเก็บเอาไว้
38. อย่าลืมรักคนรอบข้างเขาด้วย
39. ไม่ควรรีบแต่งงาน ควรให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ตัวเขาก่อน
40. หากคุณค้นพบว่าเขาไม่ใช่ ก็ควรบอกเลิกกับเขาดีๆ อย่ายื้อเวลา
.
21. ถ้ามีปัญหาอะไรกัน ต้องรีบเคลียร์กันให้จบ อย่าเก็บไว้นาน
22. อย่าสร้างสถานการณ์อึมครึมเรื่อยๆ เพราะมันจะทำให้การมาเจอกันเป็นความทุกข์มากกว่าความสุข
23. ให้เกียรติและไว้ใจเค้าบ้าง
24. อย่าคบเผื่อเลือก มันไม่เป็นผลดีกับใครเลย
25. อย่าดีแต่พูดอย่างเดียว ควรทำอะไรให้เค้าเห็นบ้าง
26. อย่าขุดคุ้ยเรื่องไม่ดีเก่าๆมาพูด
27. ต้องรู้จักให้อภัยกัน
28. ขอโทษให้เป็น อย่าคิดว่าการขอโทษเป็นเรื่องศักดิ์ศรี
29. จำไว้ว่า เราไม่ใช่เจ้าชีวิตเค้า ดังนั้นอย่าบงการเค้าไปซะทุกเรื่อง
30. อย่าพยายามเปลี่ยนให้เขาเป็นแบบที่เราต้องการ ซึ่งมันไม่ใช้ตัวเขา แต่ควรพยายามยอมรับในสิ่งที่เขาเป็นให้ได้
31. อย่าเปลี่ยนตัวเราจนสูญเสียความเป็นตัวของตัวเอง เพียงเพื่อให้เค้ามารัก
32. ต้องรู้จักปรับตัวเข้าหากันบ้าง เพราะแต่ละคนถูกเลี้ยงดูมาไม่เหมือนกัน
33. ใจเย็นๆค่อยๆเรียนรู้นิสัยกันไป ไม่ต้องรีบร้อน ความเป็นตัวตนของเขาจะแสดงออกมามากขึ้นเรื่อยๆเอง
34. บอกความรู้สึกหรือความคิดของเราให้เค้ารู้บ้าง อย่าให้เค้าเดาไปเอง
35. ถามความรู้สึกหรือความคิดของเขาบ้าง ไม่ใช่คิดไปเอง
36. อย่ามัวแต่ฝันหวาน เพราะเค้าไม่ใช่คนดี คนน่ารัก เหมือนตอนแรกที่คุณรู้จักหรอก
37. หากคุณคบกับเขาแล้วทุกข์หรือเครียด ควรมาเคลียร์กัน อย่าทนเก็บเอาไว้
38. อย่าลืมรักคนรอบข้างเขาด้วย
39. ไม่ควรรีบแต่งงาน ควรให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ตัวเขาก่อน
40. หากคุณค้นพบว่าเขาไม่ใช่ ก็ควรบอกเลิกกับเขาดีๆ อย่ายื้อเวลา
.
ป้ายกำกับ:
ข้อคิดสำหรับ “มือใหม่หัดมีแฟน”,
ผู้ชาย,
ผู้หญิง,
แฟน
ข้อคิดสำหรับ “มือใหม่หัดมีแฟน” (ตอนที่ 1)
ข้อคิดสำหรับ “มือใหม่หัดมีแฟน” (ตอนที่ 1)
มีคนถามเข้ามามากอีกเหมือนกันค่ะ ว่าเพิ่งมีแฟน(เป็นตัวเป็นตน)คนแรก ต้องทำยังไงบ้าง ตอนนี้ทำอะไรไม่ถูกเลยอ่ะ ใจเย็นๆนะคะ หายใจลึกๆ...ม่ายช่าย
1. ทำตัวให้เป็นธรรมชาติ ไม่ต้องดีเกินไป ไม่ต้องเฟค ไม่ต้องมีช่วงโปรโมชั่น
2. อย่าให้ความรักมาทำให้เราตาบอด ให้รักอย่างมีสติ ฟังคนรอบข้างบ้าง
3. อย่ารักกันหวานเลี่ยนจนเกินงาม โดยเฉพาะทำต่อหน้าคนอื่น
4. แสดงความห่วงใยให้เค้าเห็น
5. เอาใจเค้าให้เป็น เค้าอยากได้อะไร ถ้ามันไม่หนักหนาเกินไป ก็ซื้อหรือทำให้บ้าง
6. โทรหากันอย่างสม่ำเสมอ
7. แสดงความจริงใจ ถ้าคบกันระยะหนึ่ง อาจพาเค้าไปแนะนำให้เพื่อน หรือที่บ้าน รู้จักบ้าง
8. อย่ามีอะไรเกินเลยกันเด็ดขาด ไม่ว่าผู้ชายจะอยากแค่ไหนก็ตาม
9. ให้เผื่อใจไว้บ้าง อย่ารักเค้าจนหมดหัวใจ อะไรๆก็ไม่แน่ไม่นอน
10. ให้เวลากับเค้าบ้าง ไม่ใช่มัวแต่บ้างาน ติดเกมส์
11. ซื้อของให้กันตามโอกาส ไม่จำเป็นต้องแพง แต่ใช้เหตุผลในการเลือกของนี๊สนึง อย่าสักแต่ว่าซื้อไปงั้นๆแหละ และเวลาให้เค้า ควรบอกเหตุผลด้วยว่า ทำไมจึงซื้ออันนี้ให้ แค่นี้คนที่รับก็มีความสุขแล้ววว
12. ทำกิจกรรมร่วมกันอย่างสม่ำเสมอ เช่น ไปเที่ยว กินข้าว ดูหนัง ฟังเพลง
13. อย่าตามจิก อย่าโทรจิก ให้เค้ามีเวลาเป็นของตัวเองบ้าง
14. อย่าเอาแต่ใจตัวเอง หรือเอานิสัยไม่ดีที่เคยทำที่บ้านมาใช้ เราต้องรู้จักเปลี่ยนแปลงตัวเองให้มันดีขึ้น
15. พบกันครึ่งทาง อะไรยอมได้ก็ยอมๆกันไป อย่าพยายามทำให้มันเป็นเรื่อง
16. จำไว้ว่า การมีแฟนต้องทำให้เรานิสัยดีขึ้น เช่น เรื่องการให้อภัย ความรัก ความห่วงใยคนอื่น ความเข้าใจคนอื่น เป็นต้น ถ้าการมีแฟนทำให้เรานิสัยแย่ลง เห็นแก่ตัว ขอแนะนำว่าอย่ามีดีกว่า
17. ต้องคบกันอย่างสร้างสรรค์ พากันไปในทางที่ดี เช่น ชวนกันไปทำบุญ หรือถ้าช่วงใกล้สอบ ควรชวนกันไปอ่านหนังสือสอบ ไม่ใช่ชวนกันไปดูหนัง
18. อย่าเห็นแก่ตัว หรือเอาแต่ได้อย่างเดียว เช่น ผู้หญิงให้ผู้ชายเลี้ยงตลอด ไม่เคยคิดจะจ่ายเลย หรือเรียกร้องอยากได้ของขวัญจากเค้า แต่ไม่เคยคิดซื้ออะไรให้เค้าเลย
19. แสดงออกถึงความรักบ้างตามโอกาส เช่น การจับมือ การกอด โอบ
20. ถ้าอารมณ์ไม่ดี อย่าเพิ่งคุยกันดีกว่า ไว้รอดีขึ้นค่อยคุย
.
มีคนถามเข้ามามากอีกเหมือนกันค่ะ ว่าเพิ่งมีแฟน(เป็นตัวเป็นตน)คนแรก ต้องทำยังไงบ้าง ตอนนี้ทำอะไรไม่ถูกเลยอ่ะ ใจเย็นๆนะคะ หายใจลึกๆ...ม่ายช่าย
1. ทำตัวให้เป็นธรรมชาติ ไม่ต้องดีเกินไป ไม่ต้องเฟค ไม่ต้องมีช่วงโปรโมชั่น
2. อย่าให้ความรักมาทำให้เราตาบอด ให้รักอย่างมีสติ ฟังคนรอบข้างบ้าง
3. อย่ารักกันหวานเลี่ยนจนเกินงาม โดยเฉพาะทำต่อหน้าคนอื่น
4. แสดงความห่วงใยให้เค้าเห็น
5. เอาใจเค้าให้เป็น เค้าอยากได้อะไร ถ้ามันไม่หนักหนาเกินไป ก็ซื้อหรือทำให้บ้าง
6. โทรหากันอย่างสม่ำเสมอ
7. แสดงความจริงใจ ถ้าคบกันระยะหนึ่ง อาจพาเค้าไปแนะนำให้เพื่อน หรือที่บ้าน รู้จักบ้าง
8. อย่ามีอะไรเกินเลยกันเด็ดขาด ไม่ว่าผู้ชายจะอยากแค่ไหนก็ตาม
9. ให้เผื่อใจไว้บ้าง อย่ารักเค้าจนหมดหัวใจ อะไรๆก็ไม่แน่ไม่นอน
10. ให้เวลากับเค้าบ้าง ไม่ใช่มัวแต่บ้างาน ติดเกมส์
11. ซื้อของให้กันตามโอกาส ไม่จำเป็นต้องแพง แต่ใช้เหตุผลในการเลือกของนี๊สนึง อย่าสักแต่ว่าซื้อไปงั้นๆแหละ และเวลาให้เค้า ควรบอกเหตุผลด้วยว่า ทำไมจึงซื้ออันนี้ให้ แค่นี้คนที่รับก็มีความสุขแล้ววว
12. ทำกิจกรรมร่วมกันอย่างสม่ำเสมอ เช่น ไปเที่ยว กินข้าว ดูหนัง ฟังเพลง
13. อย่าตามจิก อย่าโทรจิก ให้เค้ามีเวลาเป็นของตัวเองบ้าง
14. อย่าเอาแต่ใจตัวเอง หรือเอานิสัยไม่ดีที่เคยทำที่บ้านมาใช้ เราต้องรู้จักเปลี่ยนแปลงตัวเองให้มันดีขึ้น
15. พบกันครึ่งทาง อะไรยอมได้ก็ยอมๆกันไป อย่าพยายามทำให้มันเป็นเรื่อง
16. จำไว้ว่า การมีแฟนต้องทำให้เรานิสัยดีขึ้น เช่น เรื่องการให้อภัย ความรัก ความห่วงใยคนอื่น ความเข้าใจคนอื่น เป็นต้น ถ้าการมีแฟนทำให้เรานิสัยแย่ลง เห็นแก่ตัว ขอแนะนำว่าอย่ามีดีกว่า
17. ต้องคบกันอย่างสร้างสรรค์ พากันไปในทางที่ดี เช่น ชวนกันไปทำบุญ หรือถ้าช่วงใกล้สอบ ควรชวนกันไปอ่านหนังสือสอบ ไม่ใช่ชวนกันไปดูหนัง
18. อย่าเห็นแก่ตัว หรือเอาแต่ได้อย่างเดียว เช่น ผู้หญิงให้ผู้ชายเลี้ยงตลอด ไม่เคยคิดจะจ่ายเลย หรือเรียกร้องอยากได้ของขวัญจากเค้า แต่ไม่เคยคิดซื้ออะไรให้เค้าเลย
19. แสดงออกถึงความรักบ้างตามโอกาส เช่น การจับมือ การกอด โอบ
20. ถ้าอารมณ์ไม่ดี อย่าเพิ่งคุยกันดีกว่า ไว้รอดีขึ้นค่อยคุย
.
ป้ายกำกับ:
ข้อคิดสำหรับ “มือใหม่หัดมีแฟน”,
ผู้ชาย,
ผู้หญิง,
แฟน,
รัก
อาหารการกิน เรื่องใหญ่สำหรับการเดท
อาหารการกิน เรื่องใหญ่สำหรับการเดท
ก็อย่างว่านะคะ เวลาเดทกัน ไม่รู้จะไปที่ไหน ส่วนใหญ่ก็เลยนัดกันไปทานข้าว หรือไม่ก็ดูหนัง ซึ่งการทานข้าวนี่แหละค่ะ แต่ละคนจะแสดงนิสัยและมารยาทในชีวิตประจำวันออกมา ทำให้หลายครั้งการทานข้าวเป็นสาเหตุที่ทำให้เค้าคิดได้ว่าเราไม่ใช่และไม่นัดเดทกับเราอีกต่อไป ดังนั้นเราควรเรียนรู้วิธีปฏิบัติก่อนที่จะสายเกินไปนะคะ
การเลือกร้านอาหาร
1. ควรให้ฝ่ายหญิงเป็นคนเลือกก่อน ถ้าเธอปฏิเสธเราจึงเป็นคนเลือก
2. ไม่ควรเลือกร้านที่พลุกพล่าน ร้อนเกินไป เสียงดังเกินไป ที่นั่งเบียดเกินไป ควรเลือกร้านที่โรแมนติกหน่อย
3. เลือกร้านให้เหมาะกับฐานะเราทั้งสองฝ่าย
4. ไม่ควรเลือกร้านที่คนเยอะเกินไป ประเภทต้องรีบกิน รีบไป
5. ต้องเดินทางสะดวกทั้งสองฝ่าย
ระหว่างอยู่ในร้านอาหาร
1. ให้ฝ่ายหญิงดูเมนูและสั่งอาหารก่อน
2. ถ้าต้องจองที่ ควรให้ฝ่ายชายจอง ฝ่ายหญิงไปซื้อน้ำมาวาง แล้วค่อยแยกย้ายไปเลือกซื้ออาหารกันเอง
3. ไม่ควรเลือกอาหารกลิ่นแรง เช่น มีต้นหอม กระเทียม ผงกะหรี่ กระเพรา โหระพา หัวหอมใหญ่
4. ไม่ควรเลือกอาหารที่อาจติดฟัน เช่น อาหารที่มีพริก ผักบล็อกโครี่
5. ไม่ควรเลือกอาหารที่ร้อนเกินไป โดยเฉพาะถ้าอยู่ในร้านที่ไม่เย็น มันจะทำให้เหงื่อแตก ดูไม่ดีซะเลย
6. ถ้าสั่งอาหารจานเดียว ควรสั่งอาหารที่เรากินได้หมด เช่น ไม่ชอบกินผัก ก็อย่าสั่งอาหารที่มีผัก
7. อย่าดุพนักงาน หรือแสดงอาการไม่พอใจ เก็บๆอาการไว้บ้าง
8. ควรรอกินพร้อมกัน
9. การกินอาหารประเภทเส้น ควรตัด หรือตักใส่ช้อนก่อนกิน
10. อย่ากินมูมมาม เสียงดัง
11. อย่าห่วงแต่กิน ไม่ชวนเค้าคุยเลย
12. ฝ่ายชายควรใช้ช้อนกลางตักให้ฝ่ายหญิงบ้าง
13. พยายามทานให้หมด อย่าเหลือเยอะจนน่าเกลียด
14. ทานเสร็จ นั่งคุยกันซักพักก็ดี
15. ถ้ายังไม่เป็นแฟน ฝ่ายชายควรจ่าย แต่ถ้าเป็นแฟนกันแล้ว ก็ตามตกลงค่ะ
.
ก็อย่างว่านะคะ เวลาเดทกัน ไม่รู้จะไปที่ไหน ส่วนใหญ่ก็เลยนัดกันไปทานข้าว หรือไม่ก็ดูหนัง ซึ่งการทานข้าวนี่แหละค่ะ แต่ละคนจะแสดงนิสัยและมารยาทในชีวิตประจำวันออกมา ทำให้หลายครั้งการทานข้าวเป็นสาเหตุที่ทำให้เค้าคิดได้ว่าเราไม่ใช่และไม่นัดเดทกับเราอีกต่อไป ดังนั้นเราควรเรียนรู้วิธีปฏิบัติก่อนที่จะสายเกินไปนะคะ
การเลือกร้านอาหาร
1. ควรให้ฝ่ายหญิงเป็นคนเลือกก่อน ถ้าเธอปฏิเสธเราจึงเป็นคนเลือก
2. ไม่ควรเลือกร้านที่พลุกพล่าน ร้อนเกินไป เสียงดังเกินไป ที่นั่งเบียดเกินไป ควรเลือกร้านที่โรแมนติกหน่อย
3. เลือกร้านให้เหมาะกับฐานะเราทั้งสองฝ่าย
4. ไม่ควรเลือกร้านที่คนเยอะเกินไป ประเภทต้องรีบกิน รีบไป
5. ต้องเดินทางสะดวกทั้งสองฝ่าย
ระหว่างอยู่ในร้านอาหาร
1. ให้ฝ่ายหญิงดูเมนูและสั่งอาหารก่อน
2. ถ้าต้องจองที่ ควรให้ฝ่ายชายจอง ฝ่ายหญิงไปซื้อน้ำมาวาง แล้วค่อยแยกย้ายไปเลือกซื้ออาหารกันเอง
3. ไม่ควรเลือกอาหารกลิ่นแรง เช่น มีต้นหอม กระเทียม ผงกะหรี่ กระเพรา โหระพา หัวหอมใหญ่
4. ไม่ควรเลือกอาหารที่อาจติดฟัน เช่น อาหารที่มีพริก ผักบล็อกโครี่
5. ไม่ควรเลือกอาหารที่ร้อนเกินไป โดยเฉพาะถ้าอยู่ในร้านที่ไม่เย็น มันจะทำให้เหงื่อแตก ดูไม่ดีซะเลย
6. ถ้าสั่งอาหารจานเดียว ควรสั่งอาหารที่เรากินได้หมด เช่น ไม่ชอบกินผัก ก็อย่าสั่งอาหารที่มีผัก
7. อย่าดุพนักงาน หรือแสดงอาการไม่พอใจ เก็บๆอาการไว้บ้าง
8. ควรรอกินพร้อมกัน
9. การกินอาหารประเภทเส้น ควรตัด หรือตักใส่ช้อนก่อนกิน
10. อย่ากินมูมมาม เสียงดัง
11. อย่าห่วงแต่กิน ไม่ชวนเค้าคุยเลย
12. ฝ่ายชายควรใช้ช้อนกลางตักให้ฝ่ายหญิงบ้าง
13. พยายามทานให้หมด อย่าเหลือเยอะจนน่าเกลียด
14. ทานเสร็จ นั่งคุยกันซักพักก็ดี
15. ถ้ายังไม่เป็นแฟน ฝ่ายชายควรจ่าย แต่ถ้าเป็นแฟนกันแล้ว ก็ตามตกลงค่ะ
.
ป้ายกำกับ:
ผู้ชาย,
ผู้หญิง,
ออกเดท,
อาหารการกิน เรื่องใหญ่สำหรับการเดท
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)